หลังผ่านความท้าทายจากโควิด-19 มาสองปีกว่า เยาวชนของประเทศไทยก็พร้อมรับประสบการณ์เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน (FSY) เป็นครั้งแรกในประเทศ เยาวชน 300 กว่าคนจากทั่วสยามเมืองยิ้มมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ที่ 24-29 ตุลาคม ค.ศ. 2022 การประชุมนี้จัดที่รอยัลฮิลส์กอล์ฟรีสอร์ทแอนด์สปาในจังหวัดนครนายก ประเทศไทย อยู่ใกล้ๆ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งยูเนสโกถือเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ สถานที่งดงามแห่งนี้กลายเป็นที่รวมตัวของเยาวชน บางคนเดินทางด้วยรถบัสไกลถึง 12 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงสถานที่จัดการประชุม
การดึงดูดเยาวชนของประเทศไทย
ที่ปรึกษาหนุ่มสาวโสดโปรโมทการประชุมว่าเป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน พวกเขาแชร์วิดีโอเชิญชวนและโพรไฟล์ส่วนตัวทุกวันในเดือนกันยายนผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อชักชวนเยาวชนให้ลงทะเบียนและได้คุ้นหน้าคุ้นตาผู้นำ ประเทศไทยเพิ่มวันที่หกเข้ามาในโปรแกรมปกติห้าวันด้วย การ โปรโมทเชื้อเชิญให้เยาวชนมาพบปะกับคนอื่นๆ ที่มีความเชื่อเดียวกัน ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ และเรียนรู้ที่จะประยุกต์ใช้พระกิตติคุณในชีวิตทุกด้าน
ปภาวรินท์ ธนเดชวรานนท์ (ใบเตย) เยาวชนผู้เข้าร่วมจากเชียงใหม่บอกว่า “หนูตื่นเต้นที่จะได้ทำกิจกรรมทุกอย่างกับคนที่เชื่อในพระคริสต์” ภควัฒน์ ทองแดง (โนอาห์) ผู้เข้าร่วมที่เป็นเยาวชนอีกคนจากโคราชพูดติดตลกว่า “ผมอยากเจอแฟนคนใหม่ครับ” เยาวชนอีกคนบอกว่าสนใจงานเต้นรำ วาไรตี้โชว์ และการประชุมแสดงประจักษ์พยานที่พวกเขารู้ว่าจะมีประสบการณ์ทางวิญญาณ
ความคาดหวังที่เกิดขึ้นก่อนเอฟเอสวายชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อการประชุมบังเอิญตรงกับเอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองมาเยือนประเทศไทยพอดี หลายคนเพิ่งเจออัครสาวกตัวจริงเป็นครั้งแรก เยาวชนบางคนเข้าร่วมการให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับเยาวชนและหนุ่มสาวโสดในวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคมก่อนเตรียมออกเดินทางไป FSY หลายคนมีโอกาสเจอตัวจริงเมื่อท่านมาเยี่ยมพวกเขาโดยไม่บอกล่วงหน้าในวันอังคารที่ 25 ตุลาคม ท่านทักทายเยาวชนระหว่างอาหารกลางวันก่อนแล้วจึงถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน และแบ่งปันข้อคิดจากใจท่านให้กับเยาวชน
คำแนะนำถึงคนรุ่นใหม่
ในคำพูดของเอ็ลเดอร์อุคท์ดอร์ฟกับเยาวชน ท่านต้อนรับพวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “ศาสนจักรระดับโลก” และ “พระกิตติคุณสากล” ท่านกระตุ้นให้พวกเขาเชื่อฟังพระบัญญัติ อยู่บนเส้นทางพันธสัญญา และทำตามธีมของ FSY 2022 ให้ “วางใจพระเจ้า” ก่อนจาก ท่านให้คู่มือแนะแนว “เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน” เล่มใหม่กับผู้เข้าร่วมเพื่อพวกเขาจะเป็นหนึ่งในคนรุ่นแรกสุดที่ได้รับคำแนะนำในนั้น ท่านกล่าวว่าคู่มือเหล่านี้จะช่วยพวกเขาเตรียมรับพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทยปีหน้าด้วย
จักรพรรดิ ซาวแดง (เจคอบ) เยาวชนผู้เข้าร่วมจากเชียงใหม่พูดถึงมาตรฐานเยาวชนว่า “สิ่งที่ท้าทายผมคือการอดอาหารเพราะผมชอบกิน การอดอาหารจึงยากมากสำหรับผม” แต่เขาคาดหวังว่าคู่มือแนะแนวเล่มใหม่จะช่วยเขา เขาเสริมว่า “คู่มือนี้จะเป็นพรแก่ชีวิตผมเพราะเป็นคู่มือแนะแนว จะแนะแนวผม - เหมือนที่บอกไว้ในหน้าปก - ให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นเพื่อผมจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ ด้วย”
วันหลังจากเอ็ลเดอร์อุคท์ดอร์ฟมาเยี่ยม การประชุมเริ่มด้วยการให้เยาวชนได้รับจดหมายเรียกเป็นผู้สอนศาสนาจากประธานสเตคของพวกเขาพร้อมป้ายชื่อผู้สอนศาสนา ประธานเคลลีย์ ที. เบอร์กเนอร์ ประธานคณะเผยแผ่ประเทศไทย กรุงเทพเข้าร่วม FSY พร้อมเอ็ลเดอร์และซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาอย่างละสองคู่เพื่อพูดกับเยาวชนเกี่ยวกับการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา พวกเขาแสดงประจักษ์พยานอันทรงพลังเกี่ยวกับการเตรียมตัวรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลาและบอกสิ่งที่คาดหวัง โดยเชื้อเชิญให้เยาวชนวางป้ายชื่อไว้ในที่ๆ เห็นได้ชัดและเตรียมเปลี่ยนเป็นป้ายจริงในเร็วๆ นี้
โนอาห์สะท้อนว่า “ผมทราบว่างานเผยแผ่เป็นงานยาก ทำให้ผมคิดถึงอนาคตตัวเอง ต้องเตรียมตัวเป็นผู้สอนศาสนา ปีหน้าผมถึงจะสมัครได้และมันทำให้ผมมั่นใจในการพูดคุยกับคนอื่น ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ และผมรู้จักการเป็นผู้สอนศาสนา ผมจะเป็นด้วย”
คำแนะนำถึงคนรุ่นใหม่
ในคำพูดของเอ็ลเดอร์อุคท์ดอร์ฟกับเยาวชน ท่านต้อนรับพวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “ศาสนจักรระดับโลก” และ “พระกิตติคุณสากล” ท่านกระตุ้นให้พวกเขาเชื่อฟังพระบัญญัติ อยู่บนเส้นทางพันธสัญญา และทำตามธีมของ FSY 2022 ให้ “วางใจพระเจ้า” ก่อนจาก ท่านให้คู่มือแนะแนว “เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน” เล่มใหม่กับผู้เข้าร่วมเพื่อพวกเขาจะเป็นหนึ่งในคนรุ่นแรกสุดที่ได้รับคำแนะนำในนั้น ท่านกล่าวว่าคู่มือเหล่านี้จะช่วยพวกเขาเตรียมรับพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทยปีหน้าด้วย
จักรพรรดิ ซาวแดง (เจคอบ) เยาวชนผู้เข้าร่วมจากเชียงใหม่พูดถึงมาตรฐานเยาวชนว่า “สิ่งที่ท้าทายผมคือการอดอาหารเพราะผมชอบกิน การอดอาหารจึงยากมากสำหรับผม” แต่เขาคาดหวังว่าคู่มือแนะแนวเล่มใหม่จะช่วยเขา เขาเสริมว่า “คู่มือนี้จะเป็นพรแก่ชีวิตผมเพราะเป็นคู่มือแนะแนว จะแนะแนวผม - เหมือนที่บอกไว้ในหน้าปก - ให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นเพื่อผมจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ ด้วย”
วันหลังจากเอ็ลเดอร์อุคท์ดอร์ฟมาเยี่ยม การประชุมเริ่มด้วยการให้เยาวชนได้รับจดหมายเรียกเป็นผู้สอนศาสนาจากประธานสเตคของพวกเขาพร้อมป้ายชื่อผู้สอนศาสนา ประธานเคลลีย์ ที. เบอร์กเนอร์ ประธานคณะเผยแผ่ประเทศไทย กรุงเทพเข้าร่วม FSY พร้อมเอ็ลเดอร์และซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาอย่างละสองคู่เพื่อพูดกับเยาวชนเกี่ยวกับการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา พวกเขาแสดงประจักษ์พยานอันทรงพลังเกี่ยวกับการเตรียมตัวรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลาและบอกสิ่งที่คาดหวัง โดยเชื้อเชิญให้เยาวชนวางป้ายชื่อไว้ในที่ๆ เห็นได้ชัดและเตรียมเปลี่ยนเป็นป้ายจริงในเร็วๆ นี้
โนอาห์สะท้อนว่า “ผมทราบว่างานเผยแผ่เป็นงานยาก ทำให้ผมคิดถึงอนาคตตัวเอง ต้องเตรียมตัวเป็นผู้สอนศาสนา ปีหน้าผมถึงจะสมัครได้และมันทำให้ผมมั่นใจในการพูดคุยกับคนอื่น ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ และผมรู้จักการเป็นผู้สอนศาสนา ผมจะเป็นด้วย”
สร้างความทรงจำใหม่ๆ ด้วยกัน
เยาวชนชอบอยู่กับเยาวชนคนอื่นๆ ที่คิดเหมือนกัน เยาวชนคนหนึ่งบอกว่าความรู้สึกที่ FSY ต่างจากตอนอยู่บ้านกับเพื่อนๆ และอีกคนพบว่าเยาวชน FSY เป็นกลุ่มคนที่ไม่เลือกปฏิบัติมากที่สุด “ก่อนนั้นฉันไม่กล้าเป็นเพื่อนกับคนใหม่ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าฉันสามารถเป็นเพื่อนกับคนใหม่ๆ ได้มากขึ้นเมื่อพบเจอทุกคน” นนทิชา บัวนาค (ต้นหลิว) เยาวชนจากอุดรธานีกล่าว
ส่วนการประชุมแสดงประจักษ์พยานสำหรับ FSY ประเทศไทยจัดเป็นกลุ่มเล็กเพื่อให้เยาวชนได้แสดงประจักษ์พยานหลายคนมากขึ้น เอ็ลเดอร์และ ซิสเตอร์ซัดวีคส์เล่าว่าเยาวชน “วิ่งไปที่แท่นพูดเพื่อแบ่งปันความรู้สึก ประสบการณ์ และประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์” ขณะ “ผู้ไม่เป็นสมาชิกที่เข้าร่วมครั้งแรกบอกว่าพวกเขาปรารถนาจะรับบัพติศมาเมื่อกลับจาก FSY” สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ไปรีสอร์ทบังเอิญได้ยินเยาวชนบางคนพูดคุยกันและพวกเขาถามเอ็ลเดอร์ไชยชะนะเกี่ยวกับเยาวชนสนทนาเรื่องศรัทธาในพระเยซูคริสต์และความสำคัญของการสวดอ้อนวอน
มีผู้แปลให้เยาวชนต่างชาติ 15 คนที่เข้าร่วม เยาวชนเหล่านี้มาจากออสเตรเลีย จีน ปากีสถาน สหรัฐ และสหราชอาณาจักร ส่วนเยาวชนคนไทยที่พูดภาษาอังกฤษได้ก็ช่วยกันขจัดอุปสรรคเรื่องภาษา ผู้เข้าร่วมทั้งหมดนี้รู้สึกถึงพระวิญญาณได้ง่ายผ่านการเข้าใจกัน แอนเดรียส ธอรัป เยาวชนผู้เข้าร่วมจากเชียงใหม่บอกว่า “มีคนบอกผมเสมอว่าพระคริสต์และพระผู้เป็นเจ้าทรงห่วงใยคุณจริงๆ แต่ FSY ทำให้เริ่มเข้าใจว่าพระคริสต์ทรงรู้ว่าผมเป็นใคร ทรงเข้าใจผม ทรงมีที่ให้ผม และนั่นคือสิ่งที่ผมสามารถเข้าใจได้”
ภาพสะท้อนของศรัทธา
ประเทศไทยเริ่มวางแผน FSY ครั้งแรกนาน 14 เดือนก่อนเอ็ลเดอร์ไบรอันและซิสเตอร์ แอน ซัดวีคส์คู่สามีภรรยาที่ให้คำปรึกษาในภาคจะมาจากสหรัฐ ทั้งคู่ได้รับมอบหมายให้มาเอเชีย มาช่วยจัดการประชุม FSY เจ็ดประเทศ ประเทศไทยเป็นประเทศที่ห้า พวกเขาทำงานใกล้ชิดกับผู้กำกับดูแลช่วงการประชุม คือบราเดอร์วงศกรและซิสเตอร์มณีรัตน์ จรัสอรุณฉาย พร้อมทั้งคณะผู้บริหาร ผู้ประสานงาน ที่ปรึกษาหนุ่มสาวโสด (YSA) ภายใต้การนำของเอ็ลเดอร์ สุชาติ ไชยชะนะสาวกเจ็ดสิบภาคของประเทศไทย
“FSY เป็นโปรแกรมของพระเจ้าสำหรับเยาวชนของพระองค์สมัยนี้จริงๆ” เอ็ลเดอร์และซิสเตอร์ซัดวีคส์กล่าว “เราเลิกสอนการเงินให้กับคนหนุ่มสาวที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์เพื่อจะได้มาสอนเยาวชนและหนุ่มสาวโสดในเอเชียให้มีศรัทธาในพระเยซูคริสต์ เราไม่เสียใจกับการตัดสินใจนี้แม้แต่วินาทีเดียว”
ต่อจากงานเต้นรำวันสุดท้ายของโปรแกรมและกิจกรรมที่เยาวชนแบ่งปันเป้าหมายของตนหลัง FSY ช่วงเวลาพิเศษเกิดขึ้นระหว่างผู้เข้าร่วมทั้งหมด เยาวชนทุกคนนั่งบนพื้นขณะที่ปรึกษาหนุ่มสาวโสดของพวกเขาจับมือกันยืนล้อมเยาวชนกลุ่มใหญ่นั้น หนุ่มสาวโสดร้องเพลงธีม “วางใจพระเจ้า” และเพลงสวด “ขอพระเจ้าอยู่ด้วยจนเจอกันอีก” ให้เป็นข่าวสารสุดท้ายถึงเยาวชน หลายคนน้ำตาคลอเพราะซาบซึ้งกับเพลงที่ร้องจากใจและพระวิญญาณที่รู้สึกกันอย่างท่วมท้น นับเป็นการทิ้งท้ายประสบการณ์ FSY ครั้งแรกที่ปลุกเร้าใจและไม่รู้ลืมสำหรับเยาวชนและหนุ่มสาวโสดของประเทศไทย ผลอันเปี่ยมด้วยพลังครั้งนี้จะเผยให้เห็นต่อเนื่องไปอีกหลายปีข้างหน้า