เรื่องเด่นของการประชุมใหญ่สามัญ เมษายน 2020

เรื่องเด่นของการประชุมใหญ่สามัญ เมษายน 2020

สมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายชุมนุมกันทางออนไลน์ทั่วโลก เพื่อร่วมรับชมการถ่ายทอดสดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 190 อันเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ในวันที่ 4-5 เมษายน

ระหว่างการประชุมใหญ่ครั้งนี้ มีการแบ่งปันข่าวสาร 35 เรื่องกับวิสุทธิชนยุคสุดท้ายและผู้อื่นทั่วโลก  ฝ่ายประธานสูงสุด โควรัมอัครสาวกสิบสอง และผู้นำศาสนจักรท่านอื่นได้แบ่งปันข่าวสารระหว่างการประชุมห้าภาค ข่าวสารสำคัญมุ่งเน้นที่การฉลองวาระครบรอบ 200 ปีของการฟื้นฟูศาสนจักรและพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ การชดใช้และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ พรของฐานะปุโรหิต พลังแห่งศรัทธาและพระคัมภีร์มอรมอน  มีการนำเสนอคำประกาศของศาสดาพยากรณ์ที่เรียกว่าถ้อยแถลงต่อโลกเนื่องในวาระครบรอบสองร้อยปีเพื่อเป็นพยานว่าศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายคือ “ศาสนจักรในพันธสัญญาใหม่ของพระคริสต์ที่ฟื้นฟูกลับมา”

โปรดค้นหาสรุปข้อความอ้างอิงโดยตรงจากคำปราศรัยที่เลือกไว้ด้านล่าง  ดูคำปราศรัยเพิ่มเติมหรือคำปราศรัยทั้งหมดที่ churchofjesuschrist.org/general-conference  คลิกที่ชื่อเรื่องเพื่ออ่านหรือดาวน์โหลดข้อความหรือดูวีดิทัศน์

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

1. ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

ประธานศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย
ฟังพระองค์
ความมืดทวีที่มาพร้อมกับความยากลำบากทำให้แสงสว่างของพระเยซูคริสต์เจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ  ขอเพียงนึกถึงความดีงามที่เราแต่ละคนทำได้ในกลียุคทั่วโลกครั้งนี้  พระบิดาของเราทรงทราบว่าเมื่อเราแวดล้อมไปด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจและความกลัว สิ่งที่จะช่วยเรามากที่สุดคือฟังพระบุตรของพระองค์  เพราะเมื่อเราพยายามฟัง—ตั้งใจฟัง—พระบุตรของพระองค์ เราจะได้รับการนำทางให้รู้ว่าต้องทำอะไรในสภาวการณ์นั้นๆ  ไม่ว่าท่านอยู่ที่ใดหรือมีสภาวการณ์เช่นไร พระเจ้าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของท่าน และโจเซฟ สมิธ ศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าเป็นศาสดาพยากรณ์ ของท่าน  การเปิดเผยหลั่งไหลมาจากพระเจ้าไม่ขาดสายระหว่างกระบวนการฟื้นฟูต่อเนื่องนี้  ขณะที่เราหมายมั่นเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ เราต้องพยายาม ตั้งใจฟังพระองค์ มากขึ้น  ต้องใช้ความพยายามอย่างมีสติและสม่ำเสมอที่จะทำให้ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยพระวจนะ คำสอน และความจริงของพระองค์  การจดจ่ออยู่กับพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าทุกวันสำคัญยิ่งต่อความอยู่รอดทางวิญญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลียุคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้  ข้าพเจ้าขอร้องอีกครั้งให้ท่านทำ ทุกวิถีทาง เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางวิญญาณให้พร้อมรับการเปิดเผยส่วนตัว  การทำเช่นนั้นจะช่วยให้ท่านรู้วิธีดำเนินชีวิตไปข้างหน้า รู้สิ่งที่ต้องทำในช่วงวิกฤต รู้วิธีเล็งเห็นและหลีกเลี่ยงการล่อลวงและการหลอกลวงของปฏิปักษ์

 

ซิสเตอร์บอนนี่ เอช. คอร์ดอน

2. ซิสเตอร์บอนนี่ เอช. คอร์ดอน

ประธานเยาวชนหญิงสามัญ
เพื่อพวกเขาจะเห็น

พระเยซูคริสต์ทรงเรียกเรา “ให้แสงสว่างของเจ้าส่องเช่นนั้นต่อหน้าคนเหล่านี้, เพื่อพวกเขาจะเห็นงานดีของเจ้าและสรรเสริญพระบิดาของเจ้าผู้ทรงสถิตอยู่ในสวรรค์” (3 นีไฟ 12:16)  พระดำรัสเชื้อเชิญของพระเจ้าให้เราส่องสว่างนั้นไม่ใช่แค่การโบกลำแสงไปมาตามใจชอบและทำให้โลกสว่างขึ้นทั่วไป แต่เป็นการส่องแสงสว่างของเราตรงจุดที่ผู้อื่นจะมองเห็นเส้นทางไปสู่พระคริสต์  ดิฉันกับท่านมีแสงสว่างเพียงพอที่จะแบ่งปันได้ เดี๋ยวนี้ เราสามารถส่องทางก้าวถัดไปเพื่อช่วยให้บางคนเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้น จากนั้นก็ส่องก้าวถัดไปเรื่อยๆ  ลองถามตนเองว่า “ใครบ้างต้องการแสงสว่างที่ท่านมีเพื่อค้นหาเส้นทางที่ต้องเดินแต่มองไม่เห็น?”  เราสามารถตั้งใจส่องแสงสว่างของเราเพื่อให้ผู้อื่นมองเห็น เราเอ่ยคำเชื้อเชิญได้” (เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, เมษายน 2019)  มองหาและสวดอ้อนวอนทูลขอโอกาสเพื่อส่องแสงสว่างของท่านให้ผู้อื่นมองเห็นเส้นทางสู่พระเยซูคริสต์  คำสัญญาของพระองค์ยิ่งใหญ่: “คนที่ตามเรามาจะไม่ต้องเดินในความมืด แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต” (ยอห์น 8:12)

เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสัน

3. เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสัน

แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง
รากฐานอันดีในภายหน้า
 “ในการออกแบบและการก่อสร้างพระวิหารซอทล์เลค ศาสนจักรใช้วิศวกรรม ฝีมือแรงงาน วัสดุก่อสร้าง เครื่องตกแต่ง และทรัพยากรอื่นที่หาได้ในสมัยนั้นอย่างดีที่สุด  ตั้งแต่อุทิศในปี 1893 พระวิหารตั้งมั่นเป็นประภาคารแห่งศรัทธา [และ] ความหวัง ทั้งเป็นแสงสว่างให้แก่คนทั้งปวง” (ฝ่ายอธิการควบคุม, ตุลาคม 2015)  ตลอดหลายปี ฝ่ายประธานสูงสุดได้หารือกับฝ่ายอธิการควบคุมเป็นครั้งคราว เพื่อให้แน่ใจว่ารากฐานของพระวิหารซอลท์เลคมั่นคง  การศึกษาล่าสุดยืนยันว่าทำเลที่บริคัม ยังก์เลือกไว้สร้างพระวิหารมีดินดีมากและความแน่นของดินดีเยี่ยม  ขณะตรึกตรองชีวิตสี่ปีข้างหน้าของพระวิหารซอลท์เลคที่งามสง่า สูงค่า และน่าพิศวงแห่งนี้ ข้าพเจ้านึกถึงว่านั่นเป็นช่วง คืนสภาพใหม่ มากกว่าช่วงปิดทำการ!  ในทำนองเดียวกัน เราอาจถามตนเองว่า “การคืนสภาพใหม่ให้พระวิหารซอลท์เลคครั้งใหญ่นี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้เรา คืนสภาพใหม่ สร้างใหม่ เกิดใหม่ มีชีวิตใหม่ หรือฟื้นฟูใหม่ ทางวิญญาณได้อย่างไร?  ผู้นำศาสนจักรหวังอย่างจริงใจว่าการบูรณะพระวิหารซอลท์เลคครั้งใหญ่จะมีส่วนทำให้บริคัม ยังก์ได้เห็นสมความปรารถนาว่า “พระวิหารแห่งนี้สร้างขึ้นมาในแบบที่จะอยู่คงทนตลอดมิลเลเนียม”  ช่วงหลายปีต่อจากนี้ ขอให้เรายอมให้การปรับปรุงเหล่านี้ที่ทำกับพระวิหารซอลท์เลคกระตุ้นและเป็นแรงบันดาลใจให้เรากับครอบครัว—เพื่อเราเช่นกันที่ “จะสร้างขึ้นมาในแบบที่จะอยู่คงทนตลอดมิลเลเนียม”

 

ซิสเตอร์จีน บี. บิงแฮม

4. ซิสเตอร์จีน บี. บิงแฮม

ประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ
เป็นหนึ่งเดียวกันในการทำงานของพระผู้เป็นเจ้าให้สำเร็จ
ในช่วงระหว่างกาลเริ่มต้นอันน่าอัศจรรย์ในสวนเอเดนกับปัจจุบัน ปฏิปักษ์ประสบความสำเร็จทีเดียวกับเป้าหมายที่จะแบ่งแยกชายหญิงออกจากกันในความพยายามจะยึดครองจิตวิญญาณเรา  ซาตานยั่วยุให้เกิดการเปรียบเทียบเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้สึกเหนือชั้นหรือต่ำต้อยกว่า ซุกซ่อนความจริงนิรันดร์ที่ว่าความแตกต่างที่ติดตัวมาของชายและหญิงคือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้และมีคุณค่าเท่าเทียมกัน  เป้าหมายของเขาคือส่งเสริมการต่อสู้แย่งชิงอำนาจแทนที่จะฉลองการมีส่วนในแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชายและหญิงซึ่งส่งเสริมกันและมีส่วนให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน  จากสมัยศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธถึงสมัยเรา การฟื้นฟูสรรพสิ่งที่ดำเนินต่อเนื่องมาได้นำความกระจ่างเรื่องความจำเป็นของสิทธิอำนาจและพลังอำนาจฐานะปุโรหิตในการช่วยเหลือทั้งชายและหญิงให้บรรลุหน้าที่รับผิดชอบของตนตามที่สวรรค์กำหนด  ความเข้าใจเรื่องสิทธิอำนาจและพลังอำนาจฐานะปุโรหิตเปลี่ยนชีวิตเราอย่างไรบ้าง?  กุญแจสำคัญอย่างหนึ่งคือการเข้าใจว่าเมื่อหญิงและชายทำงานด้วยกัน เราบรรลุผลสำเร็จมากมายยิ่งกว่าทำงานแยกกัน  บทบาทของเราเป็นการเกื้อกูลกันไม่ใช่แข่งขันกัน  การปรับตัวให้เข้ากับแบบแผนแห่งสวรรค์ของการทำงานด้วยกันในความเป็นหนึ่งเดียวเป็นเรื่องสำคัญมากในยุคนี้ที่ข่าวสาร “ฉันมาก่อน” มีอยู่รอบตัว  ทุกคน มีจุดประสงค์และจำเป็นต่อการทำให้แผนอันสูงส่งของพระบิดาบนสวรรค์เกิดขึ้นเพื่อมอบโอกาสที่ดีที่สุดให้บุตรธิดาแต่ละคนของพระองค์ที่จะบรรลุศักยภาพแห่งสวรรค์ของตน

 

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

5. เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง​

​“ให้สร้างนิเวศน์นี้แด่นามของเรา (หลักคำสอนและพันธสัญญา 124:40)

พันธสัญญาและศาสนพิธีฐานะปุโรหิตที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดได้รับในพระวิหาร—พระนิเวศน์ของพระเจ้าเท่านั้น  เราไม่ได้สร้างหรือเข้าพระวิหารศักดิ์สิทธิ์เพียงเพื่อจะมีประสบการณ์ส่วนตัวหรือประสบการณ์ครอบครัวที่น่าจดจำเท่านั้น  แต่พันธสัญญาที่ได้รับและศาสนพิธีที่ประกอบในพระวิหารจำเป็นต่อการชำระใจเราให้บริสุทธิ์และเพื่อความสูงส่งขั้นสูงสุดของบุตรธิดาพระผู้เป็นเจ้า  ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน บรรยายถึงรูปแบบสำคัญที่พระผู้ไถ่ทรงใช้ในการ “ทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของมนุษย์” ท่านกล่าวว่า “พระเจ้าทรงทำงานจากภายในสู่ภายนอก โลกทำงานจากภายนอกสู่ภายใน โลกจะนำผู้คนออกจากสลัม พระคริสต์ทรงนำสลัมออกจากผู้คน จากนั้นพวกเขาจะพาตนเองออกจากสลัม โลกจะหล่อหลอมมนุษย์โดยเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของพวกเขา พระคริสต์ทรงเปลี่ยนมนุษย์ จากนั้นมนุษย์จะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของตน โลกจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ แต่พระคริสต์ทรงเปลี่ยนธรรมชาติวิสัยของมนุษย์” (Ensign, November 1985)  พันธสัญญาและศาสนพิธีฐานะปุโรหิตเป็นศูนย์กลางในกระบวนการต่อเนื่องของการเกิดใหม่และการเปลี่ยนสภาพทางวิญญาณ เป็นวิธีที่พระเจ้าทรงทำงานกับเราแต่ละคน จากภายในสู่ภายนอก  เราไม่ได้มาพระวิหารเพื่อหลบซ่อนหรือหนีจากความชั่วร้ายของโลก  แต่เรามาพระวิหารเพื่อเอาชนะโลกแห่งความชั่วร้าย  หน้าที่พื้นฐานที่เรามีในฐานะสมาชิกศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเจ้าคือ (1) “ฟังพระองค์!” (โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:17) และให้ใจเราเปลี่ยนแปลงผ่านพันธสัญญาและศาสนพิธี และ (2) ทำหน้าที่รับผิดชอบจากสวรรค์ให้เกิดสัมฤทธิผลอย่างมีความสุข เพื่อมอบพรพระวิหารแก่ครอบครัวมนุษย์ทั้งปวงในทั้งสองด้านของม่าน