พระเจ้าทรงทำนายผ่านศาสดาพยากรณ์มาลาคีเกี่ยวกับการกลับมาของศาสดาพยากรณ์เอลียาห์ในยุคสุดท้าย เมื่อพระองค์ตรัสว่า “นี่แน่ะ เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยพระวจนะมายังเจ้าก่อนวันแห่งพระยาห์เวห์ คือวันที่ใหญ่ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวจะมาถึง และท่านผู้นั้นจะทำให้จิตใจของพ่อหันไปหาลูก และจิตใจของลูกหันไปหาพ่อ ไม่อย่างนั้น เราจะมาโจมตีแผ่นดินนั้นด้วยคำสาปแช่ง”1 ดังที่ตรัสไว้ ศาสดาพยากรณ์เอลียาห์ปรากฏต่อโจเซฟ สมิธในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1836 ระหว่างการอุทิศพระวิหารเคิร์ทแลนด์ ในฐานะส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูกุญแจฐานะปุโรหิตอื่นๆ โดยโมเสสและเอลีอัสในนิมิตอันยิ่งใหญ่ครั้งนั้น ศาสดาพยากรณ์เอลียาห์ฟื้นฟูกุญแจแห่งอำนาจการผนึก การฟื้นฟูอำนาจการผนึกทำให้สามี ภรรยาและลูกๆ ของพวกเขาผนึกกันได้ชั่วนิรันดร์ ในฐานะสมาชิกศาสนจักร เราสามารถรับศาสนพิธีทั้งหมดที่จำเป็นต่อการกลับไปยังที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าและรับของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาของประทานทั้งหมดของพระองค์ นั่นคือ ความสูงส่ง ด้วยวิญญาณแห่งเอลียาห์ เรามีอำนาจในการจัดระเบียบแห่งปิตุ จากนั้นจึงผนึกไว้เพื่อให้ดำรงอยู่เป็นนิจ2 อำนาจการผนึกอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ได้รับการฟื้นฟูผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ ทำให้เราสามารถประกอบศาสนพิธีทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับบรรพชนของเราในการรวมกันเป็นครอบครัวนิรันดร์และมีคุณสมบัติคู่ควรแก่การรับพรแห่งความสูงส่งเช่นกันเมื่อพวกเขายอมรับพระกิตติคุณ
เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกแนะนำให้ผู้นำภาคของเราพร้อมใจกันพยายามมากขึ้นในการทำงานประวัติครอบครัวส่วนตัว โดยเอาใจใส่คำแนะนำของท่าน ขณะนี้ทางภาคกำลังช่วยให้สมาชิกมีส่วนร่วมในงานนี้มากขึ้น ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามนี้ เราได้กระตุ้นให้ผู้ใหญ่และเยาวชนที่แข็งขันทุกคนลงทะเบียนบัญชี FamilySearch ให้เริ่มใส่บรรพชนลงในแผนภูมิสืบสกุลของพวกเขา และจองรายชื่อสำหรับศาสนพิธี เรากระตุ้นให้พวกเขากรอกข้อมูลสี่รุ่นแรกในแผนภูมิสืบสกุลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ความพยายามเหล่านี้จะเกิดผลเมื่อเราพูดคุยกับพ่อแม่และปู่ย่าตายายของเราที่ยังมีชีวิตอยู่ ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ข้าพเจ้าได้รับสำหรับงานประวัติครอบครัวมาจากคุณย่าของข้าพเจ้า การสนับสนุนความพยายามนี้จะช่วยให้เราทุกคนสร้างแผนภูมิสืบสกุลของเราเองและช่วยให้เราเห็นภาพใหญ่
อีกวิธีหนึ่งในการทำให้ประสบการณ์ประวัติครอบครัวสนุกมากขึ้นคือการจับภาพความทรงจำที่มีชีวิตของตัวเราเองและคนอื่นๆ ในเว็บไซต์ FamilySearch เราอ่านว่า “แต่ละคน ไม่ว่าจะธรรมดาสามัญเพียงใด มีความทรงจำพิเศษให้แบ่งปัน รูปภาพและเรื่องราวล้ำค่าน่าประทับใจที่สุดจำนวนมากมายมีเก็บไว้ในบ้านและในใจเรา”3 เว็บไซต์จัดหาวิธีให้เราเก็บรักษาความทรงจำ ทั้งนี้เพื่อให้เราได้แบ่งปันกับอนุชนรุ่นต่อๆ ไป เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์กล่าวว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าหวังจะต่อยอดจากคำสอนของประธานฮิงค์ลีย์เกี่ยวกับ ‘สายโซ่ของรุ่น’ เรา ท่านบรรยายอย่างชัดเจนและเน้นย้ำถึงสิ่งที่เราไม่ควรทำ ซึ่งได้แก่การเป็นห่วงโซ่ที่เปราะบางในสายโซ่ของรุ่น ข้าพเจ้าต้องการมุ่งเน้นถึงสิ่งที่เราควรทำ ซึ่งได้แก่การเป็นห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันในสายโซ่ของรุ่น” ขณะที่เราทำหน้าที่ของเราอย่างซื่อสัตย์ พระเจ้าจะทรงช่วยให้เราเป็นห่วงโซ่ที่เชื่อมต่อกันซึ่งผูกมัดรุ่นของเราไว้ด้วยกัน
ข้าพเจ้ามีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับพรของพระวิหารและงานประวัติครอบครัวขณะที่ข้าพเจ้าเข้าพระวิหารเพื่อทำเอ็นดาวเม้นท์ของตนเองและผนึกกับภรรยาข้าพเจ้า การรู้สึกถึงนิรันดรผ่านศาสนพิธีช่วยให้ข้าพเจ้าตระหนักมากขึ้นถึงความจำเป็นสำหรับบรรพชนของข้าพเจ้าในอีกด้าน ปีติท่วมท้นใจข้าพเจ้าขณะประกอบพิธีบัพติศมาแทนบรรพชนในฝ่ายภรรยาของข้าพเจ้า แอนน์ ภรรยาข้าพเจ้ากล่าวว่า “เป็นเวลาหลายปีแล้วที่คุณย่า เค. พอนนามาล ซุนดาราม ถึงแก่กรรม แต่เมื่อดิฉันประกอบศาสนพิธีแห่งความรอดให้เธอในพระวิหาร ดิฉันเห็นใบหน้าของเธอในแบบที่ดิฉันจำได้และดิฉันสัมผัสถึงปีติที่เธอรู้สึกเมื่อยอมรับศาสนพิธีที่ประกอบในนามของเธอ” ข้าพเจ้ารู้ว่าพวกท่านหลายคนมีประสบการณ์คล้ายกันและประสบการณ์ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ในการทำงานแทนบรรพชนของท่าน ทั้งหมดนี้แสดงว่านี่คืองานของพระเจ้าและบรรพชนของเรากำลังรอความช่วยเหลือจากเรา โดยการประกอบศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เรากลายเป็นผู้ช่วยให้รอดบนเขาไซอันสำหรับพวกเขา
งานแห่งความรอดสำหรับครอบครัวเราไม่อาจเสร็จสมบูรณ์ได้โดยช่วยแค่ตัวเราให้รอด เราต้องทำงานพระวิหารสำหรับคนเหล่านั้นผู้ล่วงลับไปสู่อีกด้านหนึ่งของม่าน พระผู้เป็นเจ้าทรงรักบุตรธิดาทุกคนของพระองค์ ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้สมควรได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากเรา ข้าพเจ้าสัญญาว่าหากท่านมีส่วนร่วมอย่างทุ่มเทในงานศักดิ์สิทธิ์นี้ ท่านจะรู้สึกถึงวิญญาณของเอลียาห์ ท่านจะสำนึกในบุญคุณของพวกเขามากขึ้นและพรที่ท่านสามารถให้พวกเขาผ่านพระวิหารและงานประวัติครอบครัว ขอพระผู้เป็นเจ้าประทานพรให้ท่านเห็นวิสัยทัศน์ของงานอันยิ่งใหญ่นี้ นี่คือคำสวดอ้อนวอนของข้าพเจ้าในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน ■
______________________________________
อ้างอิง:
- มาลาคี 4: 5-6
- Doctrine and Covenants Instructor’s Guide: Religion 324-325, (1981), 85–86
- ดู https://www.familysearch.org/photos/