ศีลระลึก

เอ็ลเดอร์ปีเตอร์ เอฟ. มีเออร์ส

บิดามารดาข้าพเจ้าเป็นสมาชิกคนแรกของศาสนจักรที่เมืองเล็กๆ ในชนบทชื่อว่าวอร์นามบูล ออสเตรเลีย  เป็นเวลาหลายปีที่การประชุมศาสนจักรจัดในบ้านของครอบครัวเรา  มีสมาชิกที่ซื่อสัตย์ประมาณ 15 และ 20 คนมารวมกันทุกวันอาทิตย์เพื่อรับส่วนศีลระลึกและนมัสการด้วยกัน  ความทรงจำบางอย่างในช่วงแรกๆ ของข้าพเจ้าคือความรู้สึกพิเศษถึงความรักและสันติสุขที่ข้าพเจ้ารู้สึกสมัยเป็นเด็กที่อยู่ในการประชุมเหล่านั้น

เป็นครั้งคราวเมื่อจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมของสาขามีเพียงหยิบมือ บิดาข้าพเจ้าให้กำลังใจเราด้วยเรื่องราวสั้นๆ นี้ ท่านจะพูดว่าตอนเช้าวันอาทิตย์ พระบิดาบนสวรรค์ทรงส่งถุงพรเล็กๆ ให้แต่ละการประชุมของศาสนจักรทั่วโลก  ถ้าเราโชคดีพอที่จะมีสมาชิกไม่กี่คนที่โบสถ์ เราก็จะได้รับพรส่วนที่มากขึ้นจากพรเหล่านั้น

โดยที่เรื่องราวนี้ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของหลักคำสอน เราจึงมีโอกาสได้รับพรอย่างมั่งคั่งในแต่ละสัปดาห์ขณะที่เราไปโบสถ์และรับส่วนศีลระลึก  ในหลักคำสอนและพันธสัญญาสอนเราว่า “เพื่อเจ้าจะรักษาตัวให้หมดจดจากโลกได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น, เจ้าจงไปยังบ้านแห่งการสวดอ้อนวอนและถวายศีลระลึกของเจ้าในวันศักดิ์สิทธิ์ของเรา” อีกไม่กี่ข้อต่อมาการเปิดเผยใช้คำว่า “เพื่อปีติของเจ้าจะเต็มเปี่ยม” “การชื่นชมยินดีและการสวดอ้อนวอน” และ “ด้วยใจยินดีและสีหน้ารื่นเริง”1

ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม ปี 2016 ข้าพเจ้าแบ่งปันข่าวสารเรื่อง “ศีลระลึกช่วยให้เราบริสุทธิ์ได้”  ข่าวสารสรุปวิธีต่างๆ ห้าวิธีที่จะช่วยให้เราเพิ่มอิทธิพลและพรของศีลระลึกในชีวิตเรา ในบทความนี้ข้าพเจ้าขอเน้นเพียงแนวคิดแรก  — เตรียมตัวล่วงหน้า 

ข้าพเจ้าจำได้ถึงความตื่นเต้นและความคาดหวังที่ข้าพเจ้ารู้สึกก่อนที่จะรับบัพติศมา  บิดามารดาและครูปฐมวัยสอนข้าพเจ้าถึงพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเรา ทรงประสงค์จะประทานพรแก่บุตรธิดาทั้งปวงของพระองค์  พวกเขาสอนข้าพเจ้าถึงศรัทธาและการกลับใจพร้อมกับวิธีที่ข้าพเจ้าสามารถกลับใจเพื่อเตรียมตัวรับบัพติศมา  พวกเขาสอนให้ข้าพเจ้าเข้าใจว่าโดยผ่านความรักและการพลีพระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าจะสะอาดและเป็นอิสระจากผลของบาปได้

เราสามารถรู้สึกถึงอารมณ์แห่งปีติและความคาดหวังขณะที่เราเตรียมตัวแต่ละสัปดาห์เพื่อรับส่วนศีลระลึก  เราจะไตร่ตรองถึงความรักที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีให้เรา ความปรารถนาที่จะประทานพรเราและจะทรงช่วยให้เรากลับไปที่ประทับของพระองค์   เราสามารถครุ่นคิดถึงการพลีพระชนม์ชีพของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ ผู้ทรงทนต่อ “ความเจ็บปวดและความทุกข์และการล่อลวงทุกอย่าง” แทนเราและทรงเป็นผู้ที่ทรงรับเอา ความทุพพลภาพของ[พวกเรา], เพื่ออุทรของพระองค์จะเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา, ตามเนื้อหนัง” เพื่อว่าพระองค์จะทรงช่วย “ผู้คนของพระองค์ตามความทุพพลภาพของ [พวกเรา]” 2

บางทีการเตรียมตัวที่สำคัญที่สุดสำหรับศีลระลึกคือการกลับใจทุกวัน  บางครั้งเราคิดว่าการกลับใจเป็นกระบวนการที่มีไว้สำหรับบาปหนักที่เราจำเป็นต้องสารภาพกับอธิการหรือประธานสาขาของเรา  ศีลระลึกเตือนเราว่าการกลับใจเป็นส่วนที่คาดหวังอย่างต่อเนื่องตามปกติของประสบการณ์มรรตัย  การกลับใจช่วยให้เราค่อยๆ ก้าวหน้า

ในแต่ละเรื่องราวของการสอนและการปฏิบัติศาสนกิจของพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์ทรงเชื้อเชิญและทรงเตือนเราถึงความสำคัญของการกลับใจ  แบบอย่างหนึ่งที่ทรงพลังคือคำวิงวอนของพระองค์ — “เพราะดูเถิด, เรา, พระผู้เป็นเจ้า, ทนทุกข์กับสิ่งเหล่านี้เพื่อทุกคน, เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ทนทุกข์หากพวกเขาจะกลับใจ”3

พระเจ้าทรงสอนผ่านศาสดาพยากรณ์โมโรไนว่า “หากมนุษย์มาหาเรา เราจะแสดงให้พวกเขาเห็นความอ่อนแอของพวกเขา. เราให้ความอ่อนแอแก่มนุษย์เพื่อพวกเขาจะนอบน้อม … เพราะหากพวกเขานอบน้อมถ่อมตนต่อหน้าเรา, และมีศรัทธาในเรา, เมื่อนั้นเราจะทำให้สิ่งที่อ่อนแอกลับเข้มแข็งสำหรับพวกเขา.” 4

ขณะที่เราเตรียมตัวระหว่างสัปดาห์สำหรับโอกาสศักดิ์สิทธิ์ในการรับส่วนศีลระลึก  เราคาดหวังได้ว่าจะประสบกับ “การชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์” เพื่อช่วยให้เราเข้าใจว่า ด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอด เราจะเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นต่อไปได้อย่างไร5 การกลับใจกลายเป็นกระบวนการที่น่ายินดีของการเปลี่ยนแปลง  โดยผ่านการกลับใจอย่างจริงใจเราไม่เพียงเป็นอิสระจากบาปเท่านั้น แต่ยังได้รับความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอดผู้เข้าพระทัยและทรงรักเรา ผู้ทรงทราบโดยประสบการณ์ส่วนพระองค์ว่าจะทรงช่วยเหลือและประทานพรเราอย่างไรด้วย

จากนั้นโดยที่ได้เตรียมตัวอย่างรอบคอบ เราสามารถรับส่วนศีลระลึกด้วยสันติสุขและปีติ  เราสามารถรู้สึกถึงความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเรา เราสามารถตั้งใจฟังคำสวดอ้อนวอนให้พรศีลระลึกและต่อพันธสัญญาบัพติศมาอันศักดิ์สิทธิ์ของเราอีกครั้ง และเราจะรับคำสัญญาว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงชำระเราและทรงช่วยเราในการเดินทางกลับบ้าน

ข้าพเจ้าทราบว่าขณะที่เรายังคงเตรียมพร้อมและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในศาสนพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมทางวิญญาณและสิ่งสำคัญที่สุดในสัปดาห์ของเรา เสริมสร้างศรัทธาของเรา ความรักที่เรามีต่อพระผู้ช่วยให้รอดและงานของพระองค์จะเพิ่มขึ้น


อ้างอิง:

1 คพ.  59:9, 13, 14, 15

2 แอลมา 7:11-12

3 คพ.19:16

4 อีเธอร์ 12:27

5 โมไซยาห์ 3:19