ซิสเตอร์โฮเมอร์และข้าพเจ้าได้รับพรที่มีลูกผู้ประเสริฐหกคน เมื่อแต่ละคนเกิด เราไตร่ตรองเรื่องชื่อที่จะตั้งให้พวกเขา อย่างเช่นกรณีลูกสาวฝาแฝดของเรา เราตัดสินใจว่าจะตั้งชื่อพวกเธอตามชื่อคุณย่าและคุณยาย เราทำเช่นนี้เพื่อให้เกียรติคุณย่าและคุณยายของพวกเธอ โดยหวังว่าชื่อนั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเธอเป็นคนดี เหมือนคุณย่าและคุณยาย
ในบางมุมมอง เราเหมือนศาสดาพยากรณ์ฮีลามัน ท่านและภรรยาได้รับพรที่มีบุตรชายสองคนซึ่งตั้งชื่อว่านีไฟและลีไฮ เมื่อเด็กทั้งสองเติบโต ฮีลามันอธิบายให้พวกเขาฟังว่า “พ่อตั้งชื่อลูกตามบิดามารดาแรกของเราผู้ออกมาจากแผ่นดินแห่งเยรูซาเล็ม; และการนี้พ่อทำไปเพื่อว่าเมื่อลูกนึกถึงชื่อของลูก ลูกก็จะนึกถึงพวกท่าน; และเมื่อลูกนึกถึงพวกท่าน ลูกจะนึกถึงงานของพวกท่าน; และเมื่อลูกนึกถึงงานของพวกท่านลูกจะรู้ว่าเรื่องนี้มีกล่าวไว้, และเขียนไว้ด้วย, ว่างานของพวกท่านประเสริฐ.”1
ฮีลามันเข้าใจดีว่าชื่อสามารถเป็นสิ่งที่ทรงพลัง ชื่อจะเตือนเราว่าเราคือใครและเป็นแรงบันดาลใจถึงสิ่งที่เราต้องการจะเป็น บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมเราได้รับการกระตุ้นให้รับพระนามของพระเยซูคริสต์ไว้กับเรา2 และทำไมเมื่อไม่นานมานี้ประธานเนลสันขอให้เราใช้ชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักร
เมื่อเราตัดพระนามของพระองค์ออกจากศาสนจักรของพระองค์ เรากำลังนำพระองค์ออกจากศูนย์กลางชีวิตเราโดยไม่ตั้งใจหรือเปล่า
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน
ในการประชุมใหญ่สามัญของศาสนจักรเดือนตุลาคมปี 2018 ประธานเนลสันแจ้งว่าท่านได้ “ออกข้อประกาศเกี่ยวกับวิธีที่ถูกต้องในการใช้ชื่อของศาสนจักร เนื่องจากพระเจ้าทรงดลใจ [ท่าน] ถึงความสำคัญของชื่อที่พระองค์ทรงประกาศิตไว้สำหรับศาสนจักรของพระองค์ แม้ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย”3 ประธานเนลสันกล่าวว่าความพยายามนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนชื่อ ไม่ใช่การประทับตราใหม่ ไม่ใช่เรื่องผิวเผิน ไม่ใช่ความคิดชั่วแล่น และนี่ไม่ใช่เรื่องไม่สำคัญ . . . แต่นี่คือการแก้ไขให้ถูกต้อง คือพระบัญชาของพระเจ้า4
ด้วยเหตุนี้ เราควรทำทุกสิ่งที่เราทำได้เพื่อช่วยตัวเราเอง และผู้อื่นให้พูดถึงศาสนจักรโดยใช้ชื่อที่พระเจ้าประทานให้โดยพระองค์เอง ประธานเนลสันให้ข้อสังเกตว่า “การนำพระนามของพระเจ้าออกจากศาสนจักรของพระเจ้าถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของซาตาน เมื่อเราละทิ้งพระนามของพระผู้ช่วยให้รอด เรากำลังละเลยทุกสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงทำเพื่อเรา—แม้แต่การชดใช้ของพระองค์ . . . เมื่อเราตัดพระนามของพระองค์ออกจากศาสนจักรของพระองค์ เรากำลังนำพระองค์ออกจากศูนย์กลางชีวิตเราโดยไม่ตั้งใจหรือเปล่า5
ข้าพเจ้ารู้สึกถึงพลังของวิธีที่ถูกต้องนี้ในชีวิตของตนเอง ขณะที่เว็บไซต์ ที่อยู่อีเมล และองค์ประกอบอื่นๆ ของการสื่อสารได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักร ข้าพเจ้าได้รับการย้ำเตือนว่านี่คือศาสนจักรของพระองค์และข้าพเจ้าพยายามที่จะติดตามพระองค์ ข้าพเจ้าได้รับการย้ำเตือนด้วยว่าประธานเนลสันได้สัญญาถึงพรจากการทำในส่วนของเรา
ประธานเนลสันกล่าวว่า “พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้าสัญญาว่าถ้าเราจะทำสุดความสามารถในการฟื้นฟูชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักรของพระเจ้า พระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของศาสนจักรนี้จะทรงเทพลังอำนาจและพรของพระองค์มาบนศีรษะของวิสุทธิชนยุคสุดท้าย อย่างที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน เราจะมีความรู้และพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าในการช่วยเรานำพรแห่งพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ไปยังทุกประชาชาติ ตระกูล ภาษา และผู้คน และเพื่อเตรียมโลกให้พร้อมรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเจ้า”6
สำหรับข้าพเจ้าดูเหมือนว่า เรื่องนี้ไม่เพียงจะช่วยเตรียมโลกรับการเสด็จกลับมาของพระผู้ช่วยให้รอดเท่านั้น แต่จะช่วยเตรียมใจของเราสำหรับวันนั้นด้วย ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนให้เราไม่ลืมที่จะใช้ชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักรและข้าพเจ้ามีประจักษ์พยานว่า เมื่อเราทำเช่นนั้นพรที่สัญญาไว้โดยประธานเนลสันจะเกิดขึ้น
2 ดู 2 นีไฟ 31:13; โมไซยาห์ 5:8; 3 นีไฟ 27:5; คพ. 18:21
3 รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “ชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักร,” การประชุมใหญ่สามัญ, ตุลาคม 2018
4 ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “ชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักร,” การประชุมใหญ่สามัญ, ตุลาคม 2018
5 รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “ชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักร,” การประชุมใหญ่สามัญ, ตุลาคม 2018
6 รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “ชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักร,” การประชุมใหญ่สามัญ, ตุลาคม 2018