หลายปีก่อนมีเกษตรกรคนหนึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตามชายฝั่งแอตแลนติก เข้าต้องประกาศรับสมัครคนงานรับจ้างอยู่ตลอดเวลา คนส่วนใหญ่ไม่เต็มใจทำงานในฟาร์มตามชายฝั่งแอตแลนติก พวกเขาเข็ดขยาดพายุร้ายที่โหมกระหน่ำไปทั่วแอตแลนติก ก่อความเสียหายอย่างหนักต่ออาคารบ้านเรือนและพืชผล
ขณะเจ้าของฟาร์มสัมภาษณ์ผู้สมัครงาน เขาได้แต่รับฟังคำปฏิเสธยาวเหยียด ในที่สุด ก็มีชายร่างเล็กผอมบางคนหนึ่ง อายุอานามอยู่ในวัยกลางคนที่ดูจะผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย เข้ามาหาเจ้าของฟาร์ม
“คุณทำงานในฟาร์มเก่งไหม?” เจ้าของฟาร์มถาม
“ต่อให้มีพายุผมก็หลับได้ครับ” ชายร่างเล็กตอบ
แม้จะงงๆ กับคำตอบนี้ แต่เพราะหมดหนทางที่จะหาคนมาช่วย เจ้าของฟาร์มจึงจ้างเขาไว้
ชายร่างเล็กทำงานทุกอย่างในฟาร์มได้ดีทีเดียว ทำงานตัวเป็นเกลียวตั้งแต่เช้ายันค่ำ เจ้าของฟาร์มก็รู้สึกพอใจกับการทำงานของเขา และแล้วคืนหนึ่ง มีเสียงพายุดังก้องมาจากนอกชายฝั่ง
เจ้าของฟาร์มกระโดดออกจากเตียง คว้าตะเกียงรีบไปที่บ้านพักคนงานซึ่งอยู่ติดกัน
เขาเขย่าชายร่างเล็กพลางตะโกนว่า “ตื่นเร็ว! พายุกำลังมา! ไปผูกของไว้ ก่อนที่พายุจะพัดไปหมด!”
ชายร่างเล็กพลิกตัวอยู่บนเตียงแล้วตอบอย่างหนักแน่นว่า “ไม่ครับ ผมบอกแล้ว ต่อให้มีพายุผมก็หลับได้ คำตอบนั้นทำให้เจ้าของฟาร์มโมโหมาก จนแทบอยากจะไล่เขาออกเดี๋ยวนั้น
'การทำให้บ้านของเราเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เราสามารถ “ยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” จำเป็นอย่างยิ่งในยุคสุดท้ายนี้ ทุกวันนี้การเรียนรู้ที่ให้บ้านเป็นศูนย์กลางและศาสนจักรสนับสนุนสำคัญต่อความเข้มแข็งและความคุ้มครองทางวิญญาณ และจะสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคต'
เดวิด เอ. เบดนาร์, “เตรียมรับสิ่งจำเป็นทุกอย่าง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2019
แต่แทนที่จะทำเช่นนั้น เขารีบออกไปข้างนอกเพื่อเตรียมรับมือกับพายุ เขาประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น นั่นคือ ฟางทุกมัดมีผ้าใบกันน้ำคลุมไว้ ฝูงวัวอยู่ในโรงนา ไก่อยู่ในเล้า ประตูทุกบานลงกลอนไว้แล้ว และ บานเกล็ดปิดลงอย่างแน่นหนา
ทุกอย่างผูกไว้แล้ว ไม่มีสิ่งใดถูกพัดพาไปได้
บัดนี้ เจ้าของฟาร์มเข้าใจแล้วว่าลูกจ้างของเขาหมายถึงอะไร เขาจึงกลับไปที่เตียงและต่อให้มีพายุเขาก็หลับได้เช่นกัน 1
ท่านนอนหลับขณะมีพายุได้หรือไม่? บางทีเราทุกคนก็อยากจะถอนตัวออกไปบ้างในบางครั้งและแยกตัวเราออกไปจากมรสุมชีวิตและจากลูกศรเพลิงของซาตาน เรากำลังอาศัยอยู่ในโลกที่ซาตานแกร่งกล้าขึ้นทุกที พระเจ้าตรัสว่า “ข้าพระองค์ไม่ได้ขอให้พระองค์เอาพวกเขาออกไปจากโลก แต่ขอให้ปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย” 2 เราจะอยู่ในโลกแต่ไม่เป็นของโลกได้อย่างไร? เราอ่านจากรายงานข่าวมากมายว่าความเจ็บป่วยของสังคมเราในยุคนี้มีที่มาจากความแตกสลายของครอบครัว ถ้าซาตานสามารถบั่นทอนหรือทำลายความสัมพันธ์ที่เปี่ยมด้วยความรักของคนในครอบครัว เขาก็จะเพิ่มความเศร้าหมองและความทุกข์ใจให้แก่ผู้คนได้มากกว่าวิธีอื่นทั้งหมด
สถานที่เยียวยาความเจ็บป่วยส่วนใหญ่ของสังคมอยู่ในบ้านของผู้คน การเสริมสร้างทางวิญญาณให้บ้านของเราเป็นป้อมปราการแห่งความชอบธรรมเพื่อป้องกันอิทธิพลร้ายของโลกต้องใช้พละกำลังและความเพียรอย่างต่อเนื่อง พระคัมภีร์ที่เข้ามาในความคิดของข้าพเจ้าคือถ้อยคำที่ฮีลามันแนะนำบุตรชายของท่าน: “และบัดนี้, ลูกพ่อ, จงจำ, จงจำไว้ว่าบนศิลาของพระผู้ไถ่ของเรา, ผู้ทรงเป็นพระคริสต์, พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า, ที่ลูกต้องสร้างรากฐานของลูก; เพื่อเมื่อมารจะส่งลมอันมีกำลังแรงของเขามา, แท้จริงแล้ว, ลูกศรของเขาในลมหมุน,แท้จริงแล้ว, เมื่อลูกเห็บของเขาและพายุอันมีกำลังแรงของเขา
ทั้งหมดจะกระหน่ำมาบนลูก, มันจะไม่มีพลังเหนือลูกเพื่อลากเอาลูกลงไปสู่ห้วงแห่งความเศร้าหมองและวิบัติอันหาได้สิ้นสุดไม่, เพราะศิลาซึ่งบนนั้นลูกได้รับการสร้างขึ้น, ซึ่งเป็นรากฐานอันแน่นอน, รากฐานซึ่งหากมนุษย์จะสร้างบนนั้นแล้วพวกเขาจะตกไม่ได้.” 3
พี่น้องทั้งหลาย เราสามารถทำให้บ้านของเราแต่ละคนเป็นบ้านแห่งศรัทธาโดยเชื่อในพระคุณความดีของพระผู้เป็นเจ้าและเชื่อว่าโดยการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมพระกิตติคุณเราสามารถดำเนินชีวิตในสันติสุขและความมั่นคงปลอดภัยทางวิญญาณไม่ว่าจะมีการทดลองทางโลกใด ๆ เกิดขึ้น เราต้องมีศรัทธาที่จะเชื่อฟัง ที่จะพยายามต่อไป และบำรุงเลี้ยงทัศนะเชิงบวก
ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายนปี 2019 เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์กล่าวว่า:
การทำให้บ้านของเราเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เราสามารถ “ยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” จำเป็นอย่างยิ่งในยุคสุดท้ายนี้ ทุกวันนี้การเรียนรู้ที่ให้บ้านเป็นศูนย์กลางและศาสนจักรสนับสนุนสำคัญต่อความเข้มแข็งและความคุ้มครองทางวิญญาณ และจะสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคต” 4
ในช่วงเวลาที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดนี้ เราทุกคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ข้าพเจ้าได้ยินบราเดอร์คนหนึ่งจากวอร์ดของเรากล่าวว่า เขาไม่เคยเข้าใจว่าบ้านของเขาจะเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรจนเรื่องนี้เกิดขึ้น เมื่อเราไม่สามารถนมัสการได้ทั้งในอาคารประชุมของศาสนจักรและในพระวิหาร เราสามารถนมัสการและรู้สึกปลอดภัยได้ในบ้านของเราถ้าเราทำตามคำแนะนำของผู้นำศาสนจักรที่จะทำให้บ้านของเราเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธา
ขอให้เราทำสิ่งนี้ต่อไปเพื่อบุตรหลานของเรา เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตขึ้นในบ้านที่เปี่ยมด้วยปีติและสันติสุขแห่งพระกิตติคุณ รับประสบการณ์อย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลนำทางและการประทับอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน
อ้างอิง
1. https://www.atimetolaugh.org/sleep-when-the-wind-blows.html
2. ยอห์น 17:15
3. ฮีลามัน 5:12
4. เดวิด เอ. เบดนาร์, “เตรียมรับสิ่งจำเป็นทุกอย่าง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2019; ข้อความที่ยกมา คพ. 101:22