ข่าวสารจากผู้นำภาคเอเชีย

การทำให้บ้านเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธา

เราสามารถทำให้บ้านของเราแต่ละคนเป็นบ้านแห่งศรัทธาโดยเชื่อในพระคุณความดีของพระผู้เป็นเจ้าและเชื่อว่าโดยการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมพระกิตติคุณเราสามารถดำเนินชีวิตในสันติสุขและความมั่นคงปลอดภัยทางวิญญาณไม่ว่าจะมีการทดลองทางโลกใด ๆ เกิดขึ้น

เอ็ลเดอร์สุชาติ ไชยชะนะ
เอ็ลเดอร์สุชาติ ไชยชะนะ แห่งสาวกเจ็ดสิบ

หลายปีก่อนมีเกษตรกรคนหนึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตามชายฝั่งแอตแลนติก  เข้าต้องประกาศรับสมัครคนงานรับจ้างอยู่ตลอดเวลา  คนส่วนใหญ่ไม่เต็มใจทำงานในฟาร์มตามชายฝั่งแอตแลนติก  พวกเขาเข็ดขยาดพายุร้ายที่โหมกระหน่ำไปทั่วแอตแลนติก ก่อความเสียหายอย่างหนักต่ออาคารบ้านเรือนและพืชผล

ขณะเจ้าของฟาร์มสัมภาษณ์ผู้สมัครงาน เขาได้แต่รับฟังคำปฏิเสธยาวเหยียด  ในที่สุด ก็มีชายร่างเล็กผอมบางคนหนึ่ง อายุอานามอยู่ในวัยกลางคนที่ดูจะผ่านประสบการณ์ชีวิตมามากมาย เข้ามาหาเจ้าของฟาร์ม

“คุณทำงานในฟาร์มเก่งไหม?” เจ้าของฟาร์มถาม

“ต่อให้มีพายุผมก็หลับได้ครับ” ชายร่างเล็กตอบ

แม้จะงงๆ กับคำตอบนี้ แต่เพราะหมดหนทางที่จะหาคนมาช่วย เจ้าของฟาร์มจึงจ้างเขาไว้

ชายร่างเล็กทำงานทุกอย่างในฟาร์มได้ดีทีเดียว ทำงานตัวเป็นเกลียวตั้งแต่เช้ายันค่ำ เจ้าของฟาร์มก็รู้สึกพอใจกับการทำงานของเขา  และแล้วคืนหนึ่ง มีเสียงพายุดังก้องมาจากนอกชายฝั่ง

เจ้าของฟาร์มกระโดดออกจากเตียง คว้าตะเกียงรีบไปที่บ้านพักคนงานซึ่งอยู่ติดกัน

เขาเขย่าชายร่างเล็กพลางตะโกนว่า “ตื่นเร็ว! พายุกำลังมา! ไปผูกของไว้ ก่อนที่พายุจะพัดไปหมด!”

ชายร่างเล็กพลิกตัวอยู่บนเตียงแล้วตอบอย่างหนักแน่นว่า “ไม่ครับ ผมบอกแล้ว ต่อให้มีพายุผมก็หลับได้ คำตอบนั้นทำให้เจ้าของฟาร์มโมโหมาก จนแทบอยากจะไล่เขาออกเดี๋ยวนั้น


'การทำให้บ้านของเราเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เราสามารถ “ยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” จำเป็นอย่างยิ่งในยุคสุดท้ายนี้ ทุกวันนี้การเรียนรู้ที่ให้บ้านเป็นศูนย์กลางและศาสนจักรสนับสนุนสำคัญต่อความเข้มแข็งและความคุ้มครองทางวิญญาณ และจะสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคต'

เดวิด เอ. เบดนาร์, “เตรียมรับสิ่งจำเป็นทุกอย่าง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2019

แต่แทนที่จะทำเช่นนั้น เขารีบออกไปข้างนอกเพื่อเตรียมรับมือกับพายุ  เขาประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น นั่นคือ ฟางทุกมัดมีผ้าใบกันน้ำคลุมไว้ ฝูงวัวอยู่ในโรงนา ไก่อยู่ในเล้า ประตูทุกบานลงกลอนไว้แล้ว และ บานเกล็ดปิดลงอย่างแน่นหนา

ทุกอย่างผูกไว้แล้ว ไม่มีสิ่งใดถูกพัดพาไปได้

บัดนี้ เจ้าของฟาร์มเข้าใจแล้วว่าลูกจ้างของเขาหมายถึงอะไร เขาจึงกลับไปที่เตียงและต่อให้มีพายุเขาก็หลับได้เช่นกัน 1

ท่านนอนหลับขณะมีพายุได้หรือไม่?  บางทีเราทุกคนก็อยากจะถอนตัวออกไปบ้างในบางครั้งและแยกตัวเราออกไปจากมรสุมชีวิตและจากลูกศรเพลิงของซาตาน  เรากำลังอาศัยอยู่ในโลกที่ซาตานแกร่งกล้าขึ้นทุกที  พระเจ้าตรัสว่า “ข้าพระองค์ไม่ได้ขอให้พระองค์เอาพวกเขาออกไปจากโลก แต่ขอให้ปกป้องเขาไว้ให้พ้นจากมารร้าย”  เราจะอยู่ในโลกแต่ไม่เป็นของโลกได้อย่างไร?  เราอ่านจากรายงานข่าวมากมายว่าความเจ็บป่วยของสังคมเราในยุคนี้มีที่มาจากความแตกสลายของครอบครัว  ถ้าซาตานสามารถบั่นทอนหรือทำลายความสัมพันธ์ที่เปี่ยมด้วยความรักของคนในครอบครัว เขาก็จะเพิ่มความเศร้าหมองและความทุกข์ใจให้แก่ผู้คนได้มากกว่าวิธีอื่นทั้งหมด

สถานที่เยียวยาความเจ็บป่วยส่วนใหญ่ของสังคมอยู่ในบ้านของผู้คน  การเสริมสร้างทางวิญญาณให้บ้านของเราเป็นป้อมปราการแห่งความชอบธรรมเพื่อป้องกันอิทธิพลร้ายของโลกต้องใช้พละกำลังและความเพียรอย่างต่อเนื่อง  พระคัมภีร์ที่เข้ามาในความคิดของข้าพเจ้าคือถ้อยคำที่ฮีลามันแนะนำบุตรชายของท่าน: “และบัดนี้ลูกพ่อจงจำจงจำไว้ว่าบนศิลาของพระผู้ไถ่ของเราผู้ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าที่ลูกต้องสร้างรากฐานของลูกเพื่อเมื่อมารจะส่งลมอันมีกำลังแรงของเขามาแท้จริงแล้วลูกศรของเขาในลมหมุน,แท้จริงแล้วเมื่อลูกเห็บของเขาและพายุอันมีกำลังแรงของเขา

ทั้งหมดจะกระหน่ำมาบนลูกมันจะไม่มีพลังเหนือลูกเพื่อลากเอาลูกลงไปสู่ห้วงแห่งความเศร้าหมองและวิบัติอันหาได้สิ้นสุดไม่เพราะศิลาซึ่งบนนั้นลูกได้รับการสร้างขึ้นซึ่งเป็นรากฐานอันแน่นอนรากฐานซึ่งหากมนุษย์จะสร้างบนนั้นแล้วพวกเขาจะตกไม่ได้.” 3

การทำให้บ้านเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธา

พี่น้องทั้งหลาย  เราสามารถทำให้บ้านของเราแต่ละคนเป็นบ้านแห่งศรัทธาโดยเชื่อในพระคุณความดีของพระผู้เป็นเจ้าและเชื่อว่าโดยการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมพระกิตติคุณเราสามารถดำเนินชีวิตในสันติสุขและความมั่นคงปลอดภัยทางวิญญาณไม่ว่าจะมีการทดลองทางโลกใด ๆ เกิดขึ้น  เราต้องมีศรัทธาที่จะเชื่อฟัง ที่จะพยายามต่อไป และบำรุงเลี้ยงทัศนะเชิงบวก

ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายนปี 2019 เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์กล่าวว่า:

การทำให้บ้านของเราเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เราสามารถ “ยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” จำเป็นอย่างยิ่งในยุคสุดท้ายนี้  ทุกวันนี้การเรียนรู้ที่ให้บ้านเป็นศูนย์กลางและศาสนจักรสนับสนุนสำคัญต่อความเข้มแข็งและความคุ้มครองทางวิญญาณ และจะสำคัญยิ่งขึ้นในอนาคต” 4

ในช่วงเวลาที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดนี้ เราทุกคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน  ข้าพเจ้าได้ยินบราเดอร์คนหนึ่งจากวอร์ดของเรากล่าวว่า เขาไม่เคยเข้าใจว่าบ้านของเขาจะเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรจนเรื่องนี้เกิดขึ้น  เมื่อเราไม่สามารถนมัสการได้ทั้งในอาคารประชุมของศาสนจักรและในพระวิหาร  เราสามารถนมัสการและรู้สึกปลอดภัยได้ในบ้านของเราถ้าเราทำตามคำแนะนำของผู้นำศาสนจักรที่จะทำให้บ้านของเราเป็นสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธา

ขอให้เราทำสิ่งนี้ต่อไปเพื่อบุตรหลานของเรา เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตขึ้นในบ้านที่เปี่ยมด้วยปีติและสันติสุขแห่งพระกิตติคุณ รับประสบการณ์อย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลนำทางและการประทับอยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

 

อ้างอิง

1. https://www.atimetolaugh.org/sleep-when-the-wind-blows.html

2. ยอห์น 17:15

3. ฮีลามัน 5:12

4. เดวิด เอ. เบดนาร์, “เตรียมรับสิ่งจำเป็นทุกอย่าง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2019; ข้อความที่ยกมา คพ. 101:22