ข่าวสารจากฝ่ายประธานภาคเอเชีย

ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

“เราสามารถถวายการสวดอ้อนวอนด้วยความความสำนึกคุณร่วมกับประธานเนลสันและสำนึกคุณต่อสิ่งที่เรามี แทนที่จะจดจ่อกับสิ่งที่เราไม่มี  เราสามารถขอความช่วยเหลือจากสวรรค์เพื่อทำให้พันธสัญญาบัพติศมาของเราในการช่วยเหลือผู้อื่นตลอดชีวิตและยืนเป็นพยานของพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาและในทุกสภาวการณ์ให้เกิดสัมฤทธิผล แม้เมื่อสภาวการณ์ของเรายากลำบาก”

เอ็ลเดอร์เดวิด เอฟ. อีแวนส์ แห่งสาวกเจ็ดสิบ
เอ็ลเดอร์เดวิด เอฟ. อีแวนส์ แห่งสาวกเจ็ดสิบ ประธานภาคเอเชีย

ในปี 2020 ที่ผิดธรรมดามากนี้ ทุกชีวิตล้วนได้รับผลกระทบจากการระบาดทั่วโลกอันเกี่ยวเนื่องกับโควิด-19  ขณะที่บุตรธิดาจำนวนมากของพระผู้เป็นเจ้าต่อสู้ดิ้นรนกับความเจ็บป่วยของตนเอง การสูญเสียงานอาชีพและความวิตกกังวล แม้กระทั่งความตายของบุคคลอันเป็นที่รัก เราอาจสงสัยว่าเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้โลกน่าอยู่ขึ้น

 

ข้าพเจ้าปรารถนาจะรู้จักแต่ละท่านเป็นการส่วนตัว  ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านทราบว่าเอ็ลเดอร์เมอร์ส เอ็ลเดอร์โฮเมอร์ และข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนให้ท่านประหนึ่งเรารู้จักท่านเป็นส่วนตัว เราเพิ่มชื่อท่านและอุดมการณ์ของท่านไว้ในรายชื่อสวดอ้อนวอนของพระวิหาร แม้ถึงกับขอให้ฝ่ายประธานสูงสุดและอัครสาวกสิบสองระลึกถึงท่านในการสวดอ้อนวอนของพวกท่านด้วย  เราร้องไห้กับท่านบางคนเมื่อทราบเรื่องการสูญเสียของท่านในช่วงเวลาที่ผิดธรรมดานี้  ตลอดปีนี้ข้าพเจ้าชื่นชมเมื่อเห็นคนมากมายจดจำพันธสัญญาของพวกเขาที่จะ “… แบกภาระของกันและกัน, เพื่อมันจะได้เบา … และ … โศกเศร้ากับคนที่โศกเศร้า … และปลอบโยนคนที่ต้องการการปลอบโยน, และยืนเป็นพยานเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาและในทุกสิ่ง, และในทุกแห่ง …”1 รวมทั้งในยามที่ศรัทธาถูกทดสอบและสภาวการณ์ยากลำบาก

 

ข้าพเจ้านึกถึงประธานแซมสัน ภัทราช ผู้ดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์ขณะพยายามทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น  ตอนที่เขาเสียชีวิตกะทันหันเพราะโควิด-19 เขากำลังรับใช้เป็นที่ปรึกษาในฝ่ายประธานสเตคเบงกาลูรู อินเดีย  เขาอายุเพียง 57 ปีและทิ้งจูดี้ภรรยาผู้แสนดีกับลูกสาววัยรุ่นที่น่ารักสองคนไว้เบื้องหลัง  บราเดอร์แซมสันรับบัพติศมาเป็นหนึ่งในสมาชิกรุ่นแรกของศาสนจักรในอินเดียปี 1984 เมื่ออายุ 21 ปี  ในปี 1986 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นเอ็ลเดอร์และไม่นานก็เริ่มรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา  หลายคนเปลี่ยนใจเลื่อมใสผ่านการสอนและอิทธิพลของเขา  ในปี 2002 เขากับจูดี้ที่รักแต่งงานและผนึกกันในพระวิหารฮ่องกง และมีลูกสาวผู้น่ารักสองคนจากการแต่งงานครั้งนี้  ประธานแซมสันรับใช้อย่างซื่อสัตย์และเป็นแบบอย่างให้แก่คนจำนวนมาก

 


“ความสำนึกคุณละเว้นเราจากความเศร้าโศกเสียใจ ความทุกข์ใจและความเจ็บปวดไหม? ไม่ แต่มันบรรเทาความรู้สึกเรา ช่วยให้เรามีมุมมองที่ดีขึ้นต่อจุดประสงค์และปีติในชีวิต”

20 พฤศจิกายน 2020 Church Newsroom, “The Prophet Releases a Message on the Healing Power of Gratitude.

ตอนที่ข้าพเจ้ารู้จักประธานและซิสเตอร์แซมสัน ข้าพเจ้าทราบว่าพวกเขามีปีติในชีวิตรวมทั้งความผิดหวังพอสมควรอันเกี่ยวเนื่องกับประสบการณ์มรรตัยนี้ร่วมกัน  แต่ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเขารักกันและพบวิธีจุนเจือครอบครัว รักลูกๆ รับใช้เพื่อนมนุษย์ และทำหน้าที่การเรียกที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ในศาสนจักรให้เกิดสัมฤทธิผล  แม้จะมีความดีงามในชีวิต แต่วันที่ 20 กรกฏาคม ค.ศ. 2020 ประธานแซมสันถูกเรียกกลับ “บ้านไปสู่พระผู้เป็นเจ้าองค์นั้นผู้ประทานชีวิตให้ [เขา]”2 และกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ของเขา  การทดสอบของเขาสิ้นสุดลง  โอกาสและความท้าทายของเราตอนนี้คือรักให้มากพอ สำนึกคุณให้มากพอ และซื่อสัตย์ให้มากพอเพื่อเราจะสามารถไปสมทบกับเขาและอยู่ด้วยกันตลอดไป

 

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟตั้งข้อสังเกตว่า:

 

“ไม่ช้าก็เร็ว ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราทุกคนต้องประสบช่วงเวลาที่ผืนโลกของเราขาดสะบั้นไม่มีชิ้นดี ทิ้งให้เราเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย คับข้องใจ และเคว้งคว้าง

 

สิ่งนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่มีใครรอดพ้น

 

สถานการณ์ของทุกคนแตกต่างกัน และรายละเอียดของชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน  กระนั้นก็ตาม เราเรียนรู้มาแล้วว่ามีบางสิ่งที่จะระงับความขมขื่นซึ่งอาจเข้ามาในชีวิตเรา…

 

ในฐานะสานุศิษย์ของพระคริสต์ เราได้รับบัญชาให้ ขอบพระทัยพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้า [ของเราในทุกสิ่ง’ “ร้องเพลงถวายแด่พระยาห์เวห์ด้วยใจขอบพระคุณ” และ “ให้ใจ [ของเราเต็มไปด้วยความขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้า3

 

ในคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญเดียวกัน ประธานอุคท์ดอร์ฟสัญญาว่า “พระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักทรงทราบว่าการเลือกพัฒนาวิญญาณแห่งความสำนึกคุณจะนำเราไปสู่ปีติที่แท้จริงและความสุขอันล้นเหลือ”

 

ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

ประธานเนลสันสัญญาพรเดียวกันเมื่อเราแสดงความสำนึกคุณต่อพรมากมายในชีวิตเรา

 

“ตลอดเก้าทศวรรษครึ่งของชีวิต ข้าพเจ้าสรุปได้ว่าการนับพระพรนั้นดีกว่าการย้อนนับปัญหาของเรายิ่งนัก  ไม่ว่าสภาวการณ์จะเป็นอย่างไร การแสดงความสำนึกคุณสำหรับสิทธิพิเศษที่เราได้รับเป็นยาทางวิญญาณที่เห็นผลเร็วและยั่งยืน

 

“ความสำนึกคุณละเว้นเราจากความเศร้าโศกเสียใจ ความทุกข์ใจและความเจ็บปวดไหม?ไม่ แต่มันบรรเทาความรู้สึกเรา ช่วยให้เรามีมุมมองที่ดีขึ้นต่อจุดประสงค์และปีติในชีวิต”4

 

แม้จะมีหลายวิธีที่เราสามารถทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นได้ แต่ขอให้เราเริ่มโดยแสดงความสำนึกคุณสำหรับพรของเรา  เราสามารถถวายการสวดอ้อนวอนด้วยความสำนึกคุณร่วมกับประธานเนลสันและสำนึกคุณต่อสิ่งที่เรามี แทนที่จะจดจ่อกับสิ่งที่เราไม่มี  เราสามารถขอความช่วยเหลือจากสวรรค์เพื่อบรรลุผลในพันธสัญญาบัพติศมาของเราที่จะช่วยเหลือผู้อื่นตลอดชีวิตและยืนเป็นพยานของพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาและในทุกสภาวการณ์ แม้เมื่อสภาวการณ์ของเรายากลำบาก  ขอให้เราสำนึกคุณต่อพระผู้เป็นเจ้าสำหรับชีวิต บุคคลที่เรารัก ประจักษ์พยานของเรา และพระกิตติคุณ  ขอให้เราชื่นชมยินดีในพรของการรู้ว่าชีวิตนี้เป็นเพียงฤดูกาลสั้นๆ และถ้าเรา “อดทนมันด้วยดี”5 เราจะได้รับพรทุกประการ รวมทั้งชีวิตนิรันดร์กับครอบครัวเรา

 

ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงพรของความสำนึกคุณใน “ในทุกสิ่ง”6  ข้าพเจ้าเป็นพยานและสัญญาว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงเยียวยาใจที่ชอกช้ำแต่ละดวงและจัดเตรียมทางข้างหน้าในชีวิตเราเมื่อเรารักและรับใช้กัน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กัน และแสดงความสำนึกคุณต่อพระผู้เป็นเจ้าสำหรับสิ่งที่เรามี 

 


อ้างอิง

[1] โมไซยาห์ 18:8-9

 

แอลมา 40:11

 

3 การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2014 ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ สำนึกคุณในทุกสภาวการณ์

 

4 20 พฤศจิกายน 2020 Church Newsroom, “The Prophet Releases a Message on the Healing Power of Gratitude.

 

คพ. 121:8

 

คพ. 59:7