เมื่อโมเสสสิ้นชีวิต โยชูวาเป็นผู้นำลูกหลานอิสราเอล1 มีแม่น้ำจอร์แดนไหลผ่านกั้นระหว่างพวกเขากับแผ่นดินที่สัญญาไว้ ซึ่งขัดขวางการเดินทางไปสู่อนาคตของพวกเขา ต่อมาพระเจ้าทรงดลใจให้โยชูวาชี้แนะผู้คนของเขาว่าปุโรหิตสิบสองคนควรหามหีบพันธสัญญาลงไปในน้ำ และชาวอิสราเอลจึงค่อยเดินตามไปอีกฝั่ง
โดยที่ใช้ศรัทธาอย่างมาก ผู้คนทำตามที่ได้รับคำแนะนำ ปุโรหิตวางหีบพันธสัญญาไว้บนบ่า และผู้คนออกจากกระโจม เมื่อปุโรหิตลงไปในน้ำ น้ำในแม่น้ำก็ “ตั้งสูงขึ้นเป็นกองเดียว” และ “ปุโรหิตผู้หามหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ ยืนมั่นอยู่บนดินแห้งกลางแม่น้ำจอร์แดน คนอิสราเอลทั้งหมดก็เดินข้ามไปบนดินแห้ง จนทั้งชนชาติข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปหมด”2
มีความท้าทายที่ยากลำบากและความพยายามมากมายต่อจากนั้น แต่พระเจ้าทรงนำทางผู้คนของพระองค์ไปสู่โอกาสและพรอันยิ่งใหญ่โดยผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ เช่นเดียวกันกับเราในปัจจุบัน ฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองได้รับการนำทางจากพระเจ้าขณะที่พระองค์ทรงกำกับดูแลศาสนจักรของพระองค์ หากเราทำตามการนำทางของพวกท่าน และยืนหยัดฟันฝ่าความท้าทายที่จะมาถึง เราจะได้รับโอกาส พร และปาฏิหาริย์ที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้เราทุกคน
“… เป็นหนึ่งในบรรดาคนดีที่สุดที่พระเจ้าเคยส่งมายังโลกนี้ … [พวกเขา] มีสมรรถภาพที่จะฉลาดมากขึ้น มีปัญญามากขึ้น และมีอิทธิพลต่อโลกมากกว่าคนรุ่นก่อน”
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน
พระเจ้าทรงกำกับดูแลศาสนจักรของพระองค์
สองสามปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยคำชี้นำจากศาสดาพยากรณ์สำหรับศาสนจักรของพระเจ้า มีการเน้นย้ำความสำคัญว่าศีลระลึกเป็นศูนย์รวมการนมัสการในวันสะบาโตของเรา มีการจัดทำ จงตามเรามา ให้เป็นเครื่องมือเสริมสร้างความเข้มแข็งให้บุคคลและครอบครัวโดยมีบ้านเป็นศูนย์กลางและศาสนจักรสนับสนุน มีการปรับเปลี่ยนงานแห่งความรอดและความสูงส่ง เราเริ่มปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่นในวิธีที่สูงขึ้นและศักดิ์สิทธิ์ขึ้น การใช้เทคโนโลยีทำงานของพระเจ้าแผ่ขยายไปทั่วศาสนจักร3
เมื่อไม่นานมานี้ ฝ่ายประธานสูงสุดขอให้ผู้นำช่วยให้สมาชิกพบปีติในงานแห่งความรอดและความสูงส่งโดยเสริมสร้างศรัทธาของอนุชนรุ่นหลัง รวบรวมอิสราเอลทั้งสองด้านของม่าน และมุ่งเน้นที่คำประกาศของศาสดาพยากรณ์ในปัจจุบัน นอกเหนือจากหลักธรรมและหน้าที่พื้นฐานที่เรามีร่วมกันในฐานะสมาชิกของศาสนจักร หลักธรรมสามประการนี้ยังถือเป็นความสำคัญลำดับต้นๆ สำหรับศาสนจักรของพระเจ้าในทุกวันนี้
อนุชนรุ่นหลัง
ครั้งหนึ่งประธานเนลสันกล่าวว่าเยาวชนของเรา “… เป็นหนึ่งในบรรดาคนดีที่สุดที่พระเจ้าเคยส่งมายังโลกนี้ … [พวกเขา] มีสมรรถภาพที่จะฉลาดมากขึ้น มีปัญญามากขึ้น และมีอิทธิพลต่อโลกมากกว่าคนรุ่นก่อน”4
โดยผ่านผู้รับใช้ของพระองค์ พระเจ้าทรงขอให้บิดามารดาและผู้นำทำงานร่วมกันเพื่อ “ช่วยให้เด็กและเยาวชนเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระกิตติคุณลึกซึ้งยิ่งขึ้น เป็นสานุศิษย์ที่มีค่าควรของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ และเป็นชายหญิงที่มีความซื่อสัตย์สุจริต”5 เพื่อช่วยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เราสนับสนุนให้ท่านมุ่งเน้นสิ่งสำคัญสี่ข้อ ดังนี้ 1) ช่วยให้เยาวชนมีความก้าวหน้าในโครงการใหม่สำหรับเด็กและเยาวชน 2) เรียก ปฐมนิเทศ และช่วยฝ่ายประธานโควรัมและฝ่ายประธานชั้นเรียนทำหน้าที่ตามที่พวกเขาควรทำ 3) เตรียมเด็กๆ ให้พร้อมรับบัพติศมาและเตรียมเยาวชนชายให้พร้อมสำหรับการแต่งตั้งสู่ฐานะปุโรหิตและ 4) ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยให้เยาวชนทุกคนเลือกรับใช้งานเผยแผ่
การรับใช้งานเผยแผ่เป็นสิ่งที่ทรงพลังสูงสุดอย่างหนึ่งที่คนหนุ่มสาวสามารถทำได้เพื่อมีอนาคตที่มั่นคงและประสบความสำเร็จ ขณะเป็นผู้สอนศาสนา พวกเขาจะทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของตนลึกซึ้งยิ่งขึ้น เสริมสร้างศรัทธาและพัฒนานิสัยตลอดจนทักษะที่จะทำให้พวกเขาเป็นนักเรียนที่ดีขึ้น พนักงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และพ่อแม่ที่ดีเด่นให้กับลูกๆ ของพวกเขา ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงตรัสว่า “และบัดนี้, ดูเถิด, เรากล่าวแก่เจ้า, ว่าสิ่งซึ่งจะล้ำค่าที่สุดสำหรับเจ้าคือประกาศการกลับใจแก่คนพวกนี้, เพื่อเจ้าจะนำจิตวิญญาณทั้งหลายมาสู่เรา, เพื่อเจ้าจะพักผ่อนกับพวกเขาในอาณาจักรแห่งพระบิดาของเรา”6
รวบรวมอิสราเอล
ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2020 ประธานเนลสันสอนว่า: “เมื่อเราพูดถึงการรวบรวมอิสราเอลทั้งสองด้านของม่าน แน่นอนว่าเรากำลังหมายถึงงานสอนศาสนา พระวิหาร และงานประวัติครอบครัว ทั้งยังหมายถึงการสร้างศรัทธาและประจักษ์พยานในใจคนที่อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน และรับใช้ด้วยกัน เมื่อใดก็ตามที่เราทำสิ่งใดเพื่อช่วยคนอื่นให้ทำและรักษาพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า—ไม่ว่าในด้านใดของม่าน เรากำลังช่วยรวบรวมอิสราเอล”7
ความรับผิดชอบหลักในการรวบรวมอิสราเอลมอบหมายไว้กับสมาชิกโควรัมเอ็ลเดอร์และสมาคมสงเคราะห์ พวกเขาทำเช่นนั้นภายใต้การกำกับดูแลจากฝ่ายประธานของตนและการดูแลของอธิการ ในฐานะมหาปุโรหิตควบคุม และฝ่ายประธานสเตค สมาชิกของโควรัมและสมาคมเหล่านี้ได้รับการขอให้ทำงานดังกล่าว ไม่ใช่เป็นเพียงผู้นำของพวกเขา
ผู้เข้าร่วมจะพบปีติขณะที่พวกเขามีส่วนร่วมด้วยตนเองใน “วิธีที่ใหม่กว่า บริสุทธิ์กว่าในการดูแลเอาใจใส่และปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่น”8 ในการแบ่งปันพระกิตติคุณกับผู้อื่น และในงานพระวิหารและประวัติครอบครัวสำหรับตนเองและบรรพชนผู้ล่วงลับ พวกเขาจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยคนหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้รับใช้งานเผยแผ่ให้ตัดสินใจร่วมกับการสวดอ้อนวอนที่จะรับใช้
ทำส่วนของเรา
เพราะพระเจ้าทรงกำกับดูแลศาสนจักร เราจึงยังคงจะได้รับคำชี้นำที่สำคัญจากศาสดาพยากรณ์ที่มีสิทธิอำนาจในยุคสมัยของเรา เมื่อเราทำตามการนำทางของพวกท่าน เราสามารถคาดหวังได้ เช่นเดียวกับชาวอิสราเอลในสมัยของโยชูวา ถึงโอกาส พร และปาฏิหาริย์ที่จะทำให้ชีวิตเราสุขสมบูรณ์อย่างลึกซึ้ง ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธสอนว่าเราควร “ทำสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในอำนาจของเราอย่างรื่นเริงเถิด; และจากนั้นขอให้เรายืนนิ่ง, ด้วยความมั่นใจอย่างที่สุด, เพื่อเห็นความรอดแห่งพระผู้เป็นเจ้า, และเพื่อพระองค์จะทรงเผยพระพาหุของพระองค์”9
ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงพระชนม์ พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา และพระองค์ฟื้นคืนพระชนม์อีกครั้ง พระองค์ทรงเป็นพระประมุขของศาสนจักรของพระองค์ที่พระองค์ทรงฟื้นฟูผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ พระองค์ทรงกำกับดูแลศาสนจักรของพระองค์ผ่านศาสดาพยากรณ์ในปัจจุบัน พวกท่านสอนเราถึงพระดำริและพระประสงค์ของพระองค์ เมื่อเราทำส่วนของเรา พระองค์จะทรงทำส่วนของพระองค์เอง โดยแท้แล้ว เราจะเห็นความรอดแห่งพระผู้เป็นเจ้าและพระพาหุของพระองค์ที่เผยในชีวิตเราและชีวิตของผู้ที่เรารัก
- “พระคัมภีร์ไบเบิล,” เฉลยธรรมบัญญัติ 34:8-9
- “พระคัมภีร์ไบเบิล,” โยชูวา 3:16-17
- “พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำบางสิ่งที่สุดจินตนาการ,” โดย เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2020
- “ความหวังอิสราเอล,” การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับเยาวชนทั่วโลกเดือนมิถุนายน 2018
- “เด็กและเยาวชน, แนวทางเบื้องต้นสำหรับบิดามารดาและผู้นำ,” คำนำ, หน้า 2
- “หลักคำสอนและพันธสัญญา,” 15:6
- “ให้พระเจ้าทรงมีชัย,” โดย ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2020
- “การปฏิบัติศาสนกิจ,” โดย ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2018
- “หลักคำสอนและพันธสัญญา,” 123:17