ความรักคือการแสดงออกที่เป็นสากลซึ่งอยู่เหนือทุกภาษา วัฒนธรรม เชื้อชาติ และศาสนาทั้งหมด หากปราศจากความรัก เราคงพบแต่ความสับสนวุ่นวาย ความทุกข์ทรมาน ความเกลียดชัง ความโศกเศร้า และความตาย พระคริสต์ทรงพยากรณ์และทรงเตือนไว้ล่วงหน้าว่า “ความรักของคนจำนวนมากจะเยือกเย็นลงเพราะความอธรรมแผ่กว้างออกไป” [1] ซึ่งตรงข้ามกับพระคุณลักษณะอันสูงส่งของพระองค์
แผนแห่งความรอดช่วยให้เราสามารถกลับใจได้ทั้งนี้เพื่อการชดใช้ของพระเยซูคริสต์จะทำให้เกิด “การเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในเรา, หรือในใจเรา, จนเราไม่มีใจที่จะทำความชั่วอีก, แต่จะทำความดีโดยตลอด” [2] สภาพการดำรงอยู่เช่นนี้ทำให้เกิดความรักอันบริสุทธิ์ของพระคริสต์ในตัวเรา ซึ่งช่วยให้เรามองมนุษย์แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดี ผ่านสายพระเนตรของพระผู้ช่วยให้รอดของเราเพราะ “ค่าของจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า” [3]
เพื่อได้รับความสูงส่ง เราต้องมีคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ หากเรารักพระองค์ เราจะรักษาพระบัญญัติของพระองค์ [4] เราจะสดับฟัง “ต่อการชักจูงของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์, และทิ้งความเป็นมนุษย์ปุถุชนและ [กลับเป็น] วิสุทธิชนโดยผ่านการชดใช้ของพระคริสต์พระเจ้า, และ [กลายเป็น] ดังเด็ก, ว่าง่าย, อ่อนโยน, ถ่อมตน, อดทน, เปี่ยมด้วยความรัก, เต็มใจยอมในสิ่งทั้งปวงที่พระเจ้าทรงเห็นควรจะอุบัติแก่ [เรา]” [5] จากนั้นเราจะ “ปราศจากข้อตำหนิต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า” [6]
ครั้งหนึ่งเอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า “เราทุกคนมิใช่บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือ ในความ
จริงแล้ว ไม่มีใครเลยที่จะหยุดเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้าได้” [7]
ไม่มีสักเสี้ยววินาทีใดที่พระคริสต์จะทรงหยุดรักเรา ในทำนองเดียวกัน เราควรพยายามพัฒนาความรักต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคน ขณะยังคงรักษาพันธสัญญาบัพติศมาและพันธสัญญาพระวิหารของเราด้วย
“เราทุกคนมิใช่บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือ ในความ จริงแล้ว ไม่มีใครเลยที่จะหยุดเป็นลูกของพระผู้เป็นเจ้าได้”
เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน
เมื่อพระคริสต์ทรงอยู่ในสวนเกทเสมนี พระองค์ทรงกระทำการชดใช้อันไม่มีขอบเขตให้กับวิญญาณมนุษย์ทุกคน—อดีต ปัจจุบัน และอนาคต การชดใช้ดังกล่าวสมบูรณ์แบบและครบถ้วน พระองค์ “ไม่ทรงปฏิเสธผู้ใดที่มาหาพระองค์เลย, ไม่ว่าดำและขาว, ทาสและไท, ชายและหญิง; และพระองค์ทรงคำนึงถึงคนนอกศาสนา; และทุกคนเหมือนกันหมดสำหรับพระผู้เป็นเจ้า, ทั้งชาวยิวและคนต่างชาติ” [8]
พระคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างความดีพร้อมและจิตกุศล:
1. พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตาเมื่อพระองค์ทรงรักษาหญิงที่เป็น “โรคตกโลหิตมาสิบสองปี” [9]
2. พระองค์ทรงเมตตาหญิงที่ล่วงประเวณี [10]
3. พระองค์ไม่ทรงมองมัทธิวในฐานะคนเก็บภาษีแต่เป็นอัครสาวกและเป็นพยานพิเศษของพระองค์ [11]
4. พระองค์ทรงรักษาคนโรคเรื้อนสิบคน แม้จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กลับมาขอบพระทัยพระองค์ [12]
5. บนไม้กางเขนอันโหดร้ายของคัลวารี แม้จะทุกข์ทรมาน พระองค์ยังทรงวิงวอนด้วยพระทัยดีมีเมตตาว่า “พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงยกโทษพวกเขาเพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” [13]
นีไฟให้คำแนะนำที่ดีเกี่ยวกับวิธีพัฒนาความรักอันบริสุทธิ์นี้ของพระคริสต์ ท่านแนะนำให้เรา “มุ่งหน้าด้วยความแน่วแน่ในพระคริสต์, โดยมีความเจิดจ้าอันบริบูรณ์แห่งความหวัง, และความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อมนุษย์ทั้งปวง ดังนั้น, หากท่านจะมุ่งหน้า, ดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์, และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่แล้ว, ดูเถิด, พระบิดาตรัสดังนี้ : เจ้าจะมีชีวิตนิรันดร์” [14]
เราเรียนรู้ที่จะดื่มด่ำพระวจนะของพระคริสต์โดยกล่าวคำสวดอ้อนวอนเป็นสิ่งแรกทุกวัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงอัญเชิญให้พระวิญญาณทรงช่วยเราชื่นชมพระวจนะของพระคริสต์ซึ่งเป็นที่ “พึงปรารถนาเหนือผลอื่นใดทั้งหมด” [15] จากนั้นเราจะจัดลำดับความสำคัญของวันได้โดยให้การอ่านพระคัมภีร์มีความสำคัญก่อนเรื่องอื่น
ความหวังของประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันคือให้เรารู้สึกถึงผลการชำระให้สะอาดของพระคริสต์เมื่อเราเต็มใจที่จะกลับใจและกระตือรือร้นที่จะฟังพระองค์
“ข้าพเจ้านึกถึงความจำเป็นที่เราแต่ละคนต้องเอาเศษซากเก่าๆ ออกจากชีวิตเราด้วยความช่วยเหลือของพระผู้ช่วยให้รอด พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เป็นพระกิตติคุณแห่งการกลับใจ เพราะการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด พระกิตติคุณของพระองค์จึงให้คำเชื้อเชิญที่จะเปลี่ยนแปลง เติบโต และบริสุทธิ์มากขึ้นต่อไปเรื่อยๆ นี่คือพระกิตติคุณแห่งความหวัง การเยียวยา และความก้าวหน้า ดังนั้น พระกิตติคุณจึงเป็นข่าวสารแห่งปีติ! วิญญาณของเราชื่นชมยินดีกับก้าวเล็กๆ ทุกก้าวที่เราก้าวไปข้างหน้า” [16]
ความรักที่มีให้มนุษย์ทุกคนและการให้อภัยล้วนเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ได้ เพราะความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่ทรงมีให้เรา พระบิดาบนสวรรค์จึงไม่ทรงหยุดให้อภัยเราเมื่อเรากลับใจจากการกระทำผิดและยอมรับการชดใช้ของพระคริสต์และการแก้ต่างของพระองค์ต่อพระบิดาเพื่อเรา แม้เราจะเป็นหนี้พระผู้ช่วยให้รอดในหนี้นิรันดร์ซึ่งไม่อาจชดใช้คืนได้ แต่ทั้งหมดที่พระองค์ทรงเรียกร้องจากเราคือให้เรารักพระผู้เป็นเจ้า รักษาพระบัญญัติของพระองค์ และพัฒนาความรักต่อมนุษย์ทุกคน
เพื่อช่วยเรา พระคริสต์ทรงบัญชาให้เรากลับใจและ “เรียกร้องจากเจ้าที่จะให้อภัยมนุษย์ทั้งปวง” [17] ขณะที่เราพยายาม “ฟังพระองค์!” [18] และมุ่งมั่นพัฒนาความรักอันบริสุทธิ์ของพระคริสต์อย่างแท้จริง เราจะพัฒนาวิญญาณแห่งการกลับใจจากบาปของเราเองและการให้อภัยบาปของผู้อื่นอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ขอให้เราทำเช่นนั้น เพื่อเราจะ “กลับกลายเป็นบุตรของพระผู้เป็นเจ้า; เพื่อว่าเมื่อพระองค์จะเสด็จมาปรากฏเราจะเป็นเหมือนพระองค์, เพราะเราจะเห็นพระองค์ดังที่พระองค์ทรงดำรงอยู่; เพื่อเราจะมีความหวังนี้; เพื่อพระองค์จะทรงทำให้เราบริสุทธิ์แม้ดังที่พระองค์ทรงบริสุทธิ์” [19]
อ้างอิง
1 มัทธิว 24:12.
2 โมไซยาห์ 5:2.
3 หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:10.
4 ยอห์น 14:15.
7 เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “การตัดสินใจเพื่อนิรันดร์,” การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2013.
8 2 นีไฟ 26:33.
9 มัทธิว 9:20.
10 ยอห์น 8:11.
11 มัทธิว 9:9.
12 ลูกา 17:17.
13 ลูกา 23:34.
14 2 นีไฟ 31:20.
15 1 นีไฟ 8:15.
16 ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ข่าวสารต้อนรับ,” การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2021.
17 หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:10.
19 โมโรไน 7:48.