ข่าวสารจากผู้นำภาคเอเชีย (December 2021)

พันธสัญญาพระวิหารเสริมสร้างรากฐานในพระคริสต์

“ศาสนพิธีและพันธสัญญาของพระวิหารช่วยให้เราเข้าใจแผนของพระบิดาบนสวรรค์ที่มีต่อเราบนแผ่นดินโลกได้ดีขึ้น; สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราคงไว้ซึ่งมุมมองและพบความหวังเมื่อเราเผชิญความท้าทายในแต่ละวัน; และเป็นพรให้กับเราด้วยพลังที่จะพัฒนาชีวิตของเราขณะที่สิ่งเหล่านี้ชี้นำเราอย่างแจ้งชัดสู่พระผู้ช่วยให้รอด”

เอ็ลเดอร์รอส เอ. ชายล์ส
เอ็ลเดอร์รอส เอ. ชายล์ส แห่งสาวกเจ็ดสิบ

เมื่อข้าพเจ้าเกิดในปี 1964 มีพระวิหารที่เปิดดำเนินการเพียง 12 แห่งทั่วโลก เมื่อถึงเวลาที่ข้าพเจ้าออกไปรับใช้งานเผยแผ่มีพระวิหารเพียง 31 แห่ง คิดดูว่าช่างน่าอัศจรรย์เพียงใดที่เรามีการประกาศพระวิหารใหม่ 33 แห่งในปีนี้ และ13 แห่งเพิ่งประกาศในการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม นั่นทำให้เรามีพระวิหารรวมทั้งหมด 265 แห่งทั่วโลก รวมถึงพระวิหารในอินเดีย, ประเทศไทย, กัมพูชา, ฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้, สิงคโปร์, ไทเป ไต้หวัน และตอนนี้ที่ เกาสง ไต้หวัน ข้าพเจ้ารู้ว่าสมาชิกที่ไต้หวันมีความหวังและสวดอ้อนวอนเป็นเวลาหลายปีเพื่อได้รับพรของพระวิหารและขณะที่ข้าพเจ้านั่งอยู่ที่นี่ ข้าพเจ้าจินตนาการถึงพระวิหาร แม้พระวิหารอีกมากมายซึ่งจะสร้างในทุกประเทศของเอเชีย เป็นความคิดที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างยิ่ง!

 

ความรู้สึกแห่งความหวังและความตื่นเต้นนี้ดูจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดเนื่องจากโรคโควิด-19 ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา ทั่วเอเชียเรายังคงเผชิญกับความท้าทายของวิกฤติโลกอย่างต่อเนื่อง อาจดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่เวลาปกติที่เราจะมุ่งเน้นถึงการสร้างพระวิหารแห่งใหม่

 

ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2019 เมื่อประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน และเอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน มาเยี่ยมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้าพเจ้าได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมซึ่งจัดโดยเจ้าหน้าที่ราชการส่วนท้องถิ่นในฮานอย ประเทศเวียดนาม ประธานเนลสันให้ข้อคิดที่น่าสนใจซึ่งท่านได้กล่าวย้ำอีกครั้งในการประชุมให้ข้อคิดทางวิญญาณที่เมืองโฮจิมินห์ในวันต่อมาและย้ำอีกครั้งในการประชุมใหญ่สามัญหลังจากนั้น “ในบางแง่ การสร้างพระวิหารนั้นง่ายกว่าการสร้างคนให้พร้อมสำหรับพระวิหาร”[1] ท่านกระตุ้นให้วิสุทธิชนในเวียดนามเตรียมตนเองให้พร้อมสำหรับวันที่พรของพระวิหารจะมายังแผ่นดินของพวกเขา พวกเขาจะต้องมีสมาชิกที่สามารถทำงานในพระวิหารและเตรียมรายชื่อสมาชิกครอบครัวของพวกเขาเพื่อนำไปประกอบศาสนพิธีแทนคนตายในพระวิหาร คำแนะนำของท่านคือเราไม่ควรรอพระวิหารแต่เราควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับพระวิหาร!

 

โดยที่ใจจดจ่อในคำแนะนำจากศาสดาพยากรณ์ และการมองโลกในแง่ดีด้วยแรงบันดาลใจจากข้อประกาศล่าสุดนี้ ดูเหมือนเป็นเวลาที่ดีพร้อมที่เราจะไตร่ตรองอย่างรอบคอบถึงสิ่งที่เราจะทำเพื่อเตรียมรับพรซึ่งจะเกิดขึ้นในพระวิหารใหม่ที่งดงามเหล่านี้


“ในบางแง่ การสร้างพระวิหารนั้นง่ายกว่าการสร้างคนให้พร้อมสำหรับพระวิหาร”

รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

ผูกมัดด้วยปีติกับพระผู้ช่วยให้รอด

 

ศาสนพิธีและพันธสัญญาของพระวิหารช่วยให้เราเข้าใจแผนของพระบิดาบนสวรรค์ที่มีต่อเราบนแผ่นดินโลกได้ดีขึ้น; สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราคงไว้ซึ่งมุมมองและพบความหวังเมื่อเราเผชิญความท้าทายในแต่ละวัน; และเป็นพรให้กับเราด้วยพลังที่จะพัฒนาชีวิตของเราขณะที่สิ่งเหล่านี้ชี้นำเราอย่างแจ้งชัดสู่พระผู้ช่วยให้รอด

 

ระหว่างการประชุมใหญ่สามัญในเดือนตุลาคม เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์ สอนเราถึงความหมายของสิ่งที่พระเจ้าตรัส เมื่อพระองค์ตรัสว่า: 

 

“จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา…ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา”[2]

 

เอ็ลเดอร์เบดนาร์เสริมว่า “เรารับแอกของพระผู้ช่วยให้รอดไว้กับเราเมื่อเราเรียนรู้ มีค่าควรที่จะรับ และให้เกียรติพันธสัญญาและศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ เราถูกผูกมัดแน่นหนาติดกับพระผู้ช่วยให้รอดเมื่อเรามุ่งจดจำและทำสุดความสามารถเพื่อดำเนินชีวิตตามข้อผูกมัดที่เรายอมรับ และการผูกมัดกับพระองค์เป็นแหล่งพลังทางวิญญาณในชีวิตเราทุกช่วง”[3]

 

เราจะเตรียมอะไรได้บ้าง?

 

หลายปีก่อน เมื่อข้าพเจ้ารับใช้เป็นอธิการ วอร์ดของเราจัดวันไปพระวิหารทุก 6 เดือน เพื่อเป็นการเตรียมเราให้พร้อมมุ่งเน้นไปที่เป้าหมาย 3 ข้อ: 

 

1.ช่วยเหลือสมาชิกแต่ละคนให้มีใบรับรองพระวิหารที่เป็นปัจจุบัน ในส่วนของสภาวอร์ดเราช่วยสมาชิกเอาชนะอุปสรรคซึ่งปิดกั้นความก้าวหน้าของพวกเขาสู่พระวิหาร ทั้งนี้รวมถึงเยาวชนและคนหนุ่มสาวทุกคน 

 

2.ทำงานกับสมาชิกทุกคนเพื่อช่วยพวกเขาเตรียมมีส่วนร่วมในศาสนพิธีคนเป็นที่จำเป็นต่อพวกเขา เราช่วยสมาชิกที่ไม่ได้รับเอ็นดาวเม้นท์หรือผนึกให้เรียนรู้และเตรียมตนเองให้พร้อมสำหรับพระวิหารในวันนั้น รวมถึงการเข้าชั้นเรียนเตรียมตัวไปพระวิหารหากจำเป็น

 

3.มุ่งเน้นกิจกรรมและโอกาสในงานประวัติครอบครัวเพื่อช่วยสมาชิกแต่ละคนในวอร์ดให้มีชื่อบรรพชนอย่างน้อยหนึ่งชื่อให้พร้อมสำหรับพระวิหาร

 

 

นี่เป็นความพยายามอันสำคัญยิ่งเพื่อสร้างความกระตือรือร้นและวิสัยทัศน์ให้วอร์ดของเรา เมื่อวันไปพระวิหารมาถึง ทั้งวอร์ดจะมาถึงก่อนเวลาและใช้เวลาทั้งวันรับใช้และช่วยเหลือกันในพระวิหาร เรารู้สึกถึงความรักและความเป็นหนึ่งเดียวกันเมื่อเรารับใช้ด้วยกันในพระนิเวศน์ของพระเจ้า

พันธสัญญาพระวิหารเสริมสร้างรากฐานในพระคริสต์

เวลานี้เป็นเวลาที่ดีพร้อม

 

“พระวิหารคือพระนิเวศน์ของพระเจ้าอย่างแท้จริง  ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งการนมัสการโดยที่บุคคลทำพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์กับพระผู้เป็นเจ้า เพราะการทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าเป็นความรับผิดชอบศักดิ์สิทธิ์ บุคคลไม่สามารถเข้าพระวิหารเพื่อรับเอ็นดาวเม้นท์หรือผนึกในการแต่งงานเพื่อนิรันดร์จนกว่าพวกเขาจะเตรียมตนเองให้พร้อมอย่างเต็มที่...”[4]

สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าในช่วงเวลาท้าทายที่สุดนี้เป็นช่วงเวลาอันยอดเยี่ยมที่จะระลึกถึงคำแนะนำจากศาสดาพยากรณ์ที่เรารักเพื่อเตรียมตัวเราสำหรับพระวิหารที่กำลังจะสร้างท่ามกลางพวกเราในอีกไม่นาน นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำงานเป็นครอบครัววอร์ดเพื่อเตรียมรับพรของพระวิหารร่วมกัน

 

แอลมาสอนบุตรของท่าน “ว่าไม่มีทางหรือวิธีอื่นใดซึ่งโดยทางนั้นมนุษย์จะได้รับการช่วยให้รอดได้, เว้นแต่ในและโดยผ่านพระคริสต์. ดูเถิด, พระองค์ทรงเป็นชีวิตและแสงสว่างของโลก. ดูเถิด, พระองค์ทรงเป็นพระวาทะแห่งความจริงและความชอบธรรม.”[5]

 

ขอให้เราทุกคนทำงานร่วมกันเพื่อช่วยรวบรวมครอบครัวของเราในพระกิตติคุณทั้งสองด้านของม่านและเสริมสร้างรากฐานของเราในพระคริสต์

 


[1] รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “คำปราศรัยปิดการประชุม,” การประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2019.

[2] มัทธิว 11:29-30.

[3] เดวิด เอ. เบดนาร์, “มีเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าในรัศมีภาพอันยิ่งใหญ่,” การประชุมใหญ่สามัญ ตุลาคม 2021.

[4] หัวข้อพระกิตติคุณ “พระวิหาร”

[5] แอลมา 38:9.