ข่าวสารจากผู้นำภาคเอเชีย (April 2022)

ศาสนพิธีศีลระลึก

ในฐานะสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ เราสามารถเชื้อเชิญเพื่อนของเราและสมาชิกที่หายไปทั้งหมดที่เรารู้จักและรักมาที่การประชุมศีลระลึก เราทุกคนสามารถรู้สึกเป็นที่รักและสร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์

เอ็ลเดอร์ ติง ซึง ชาง
เอ็ลเดอร์ ติง ซึง ชาง แห่งสาวกเจ็ดสิบ

เมื่อเราพยายามเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ ศีลระลึกเป็นศาสนพิธีที่คุ้นเคยและมีความหมายที่สุดในชีวิตเรา พระเยซูทรงตั้งศีลระลึกเพื่อเตือนเราถึงการชดใช้ของพระองค์เมื่อสิ้นพระกระยาหารมื้อสุดท้าย ตอนนี้ เราสำนึกคุณและปีติยินดีที่เราสามารถรับส่วนศีลระลึก ต่อและรักษาพันธสัญญาของเราทุกสัปดาห์

 

โดยผ่านศาสนพิธีศีลระลึก เราทำพันธสัญญาว่าจะระลึกถึงพระเยซูคริสต์ตลอดเวลา เต็มใจรับพระนามของพระองค์ และสัญญาว่าจะรักษาพระบัญญัติตามที่ระบุไว้ในคำสวดอ้อนวอนศีลระลึก[1] นอกจากนี้ พระเจ้าทรงสัญญากับเราว่าเราจะได้รับการปลดบาปของเราผ่านการชดใช้ของพระองค์ มีพระวิญญาณของพระองค์อยู่กับเราเสมอ และมีความรู้ ศรัทธา พลัง และความชอบธรรมเพื่อให้ได้ชีวิตนิรันดร์[2]

 

ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งที่ข้าพเจ้าสามารถให้พรศีลระลึกคุณแม่ทุกวันสะบาโตในบ้านของเธอเนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอและปัญหาสุขภาพ ขณะรับศีลระลึกทุกครั้ง เธอไตร่ตรองและแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง ในช่วงเวลานี้เรามีความรู้สึกพิเศษบางอย่างเสมอขณะข้าพเจ้ากล่าวคำสวดศีลระลึกอย่างช้าๆ และชัดเจน ในห้องที่เราอยู่ เราสัมผัสได้ถึงพระวิญญาณอย่างลึกซึ้ง โดยผ่านบรรยากาศของความคารวะและศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่เรารับส่วน ใจเราเป็นหนึ่งเดียวกันในพระเยซูคริสต์ เราได้รับการเตือนถึงสันติสุขที่พระเจ้าประทานแก่ผู้ติดตามพระองค์และความหวังที่จะกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ของเราสักวันหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คุณแม่ข้าพเจ้าสิ้นชีวิตเมื่ออายุ 99 ปี แม้ความตายของผู้เป็นที่รักจะเป็นเรื่องยากสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ข้าพเจ้ารู้สึกถึงการปลอบประโลมและสันติในช่วงเวลานั้นเนื่องจากความรู้และศรัทธาในการชดใช้


ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่รอดทางวิญญาณหากปราศจากอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงนำทาง ชี้นำ ปลอบโยน และคงอยู่ตลอดไป

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

เราอยู่ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย ความเครียดทางเศรษฐกิจ ความไม่ปลอดภัยทางสังคม ปัญหาครอบครัวและการแต่งงาน การระบาดใหญ่ของโควิด 19 และภัยธรรมชาติคือความท้าทายบางส่วนที่เรากำลังเผชิญ แม้จะรู้สึกหนักใจ แต่เราไม่จำเป็นต้องปล่อยให้ความกลัวเอาชนะเรา เราควรสำนึกคุณที่ได้รับคำสัญญาว่าเราสามารถ “มีพระวิญญาณของพระองค์อยู่กับเราตลอดเวลา” โดยการรับศีลระลึกทุกสัปดาห์ เราจะได้ยินสุรเสียงกระซิบของพระวิญญาณในการนำทาง การปลอบโยน และสันติสุขในชีวิตประจำวันของเรา โดยการหยุดนิ่ง เราจะได้ยินสุรเสียงของพระองค์ รับการเปิดเผยส่วนตัว และรู้สึกถึงสันติ “ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่รอดทางวิญญาณหากปราศจากอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงนำทาง ชี้นำ ปลอบโยน และคงอยู่ตลอดไป”[3]

 

เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์สอนว่า “การรับส่วนศีลระลึกเป็นศาสนพิธีต่อไปที่ทุกคนต้องการหลังจากได้รับการยืนยันเป็นสมาชิกของศาสนจักร ศีลระลึกเป็นศาสนพิธีต่อไปที่จำเป็นหลังจากได้รับเอ็นดาวเม้นท์หรือผนึกในพระวิหาร ศีลระลึกเป็นศาสนพิธีลำดับต่อไปที่จำเป็นหลังจากเลือกได้ดีและเป็นศาสนพิธีถัดไปหลังจากเลือกที่ไม่ดี ศีลระลึกเป็นศาสนพิธีต่อไปที่จำเป็นทุกสัปดาห์ตลอดชีวิตที่เหลือของเรา”[4]

ศาสนพิธีศีลระลึก

ไม่ว่าเราจะอายุเท่าใด มีชีวิตอยู่ได้นานเพียงใด หรือเกิดอะไรขึ้นในชีวิตเรา ศาสนพิธีศีลระลึกในวันสะบาโตช่วยให้เราจดจ่อที่พระเยซูคริสต์ในชีวิตประจำวันของเรา และจรรโลงจิตวิญญาณเรา ดังที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันแนะนำว่า “เมื่อชีวิตเรามุ่งเน้นที่พระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์ เราจะรู้สึกปีติได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น—หรือไม่เกิดขึ้น—ในชีวิตเรา ปีติมาจากพระองค์และเพราะพระองค์ พระองค์ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของความสุขทั้งปวง”[5]

 

เรารักพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ และรู้สึกถึงความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเรา เราติดตามพระผู้ช่วยให้รอดและพยายามรักเพื่อนบ้านเหมือนที่พระองค์ทรงรัก เราต้องการให้ผู้อื่นรู้สึกถึงความรักของพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ เราสามารถแบ่งปันเวลา ทรัพยากร และประสบการณ์ส่วนตัวเพื่อเป็นพรแก่เพื่อนและครอบครัวของพวกเขา เราต้องการให้พวกเขารู้สึกถึงปีติที่มาจากพระผู้ช่วยให้รอด พระกิตติคุณ และศาสนจักรของพระองค์ “ศาสนพิธีศีลระลึกทำให้การประชุมศีลระลึกเป็นการประชุมศักดิ์สิทธิ์และสำคัญที่สุดในศาสนจักร”[6] ในฐานะสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ เราสามารถเชื้อเชิญเพื่อนของเราและสมาชิกที่หายไปทั้งหมดที่เรารู้จักและรักมาที่การประชุมศีลระลึก เราทุกคนสามารถรู้สึกเป็นที่รักและสร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์ นี่คืองานของพระองค์ นี่คือศาสนจักรของพระองค์

 


[1] หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:77, 79

[2] งานแปลของโจเซฟ สมิธ—มัทธิว 26:22, 24; 3 นีไฟ 18:12

[3] รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “การเปิดเผยสำหรับศาสนจักร การเปิดเผยสำหรับชีวิตเราเลียโฮนา พ.ค. 2018, 96.

[4] เดล จี. เรนลันด์, “การเปลี่ยนใจเลื่อมใสตลอดชีวิต,” คำปราศรัยให้ข้อคิดทางวิญญาณของบีวายยู, 14 ก.ย. 2021

[5] รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ปีติและการอยู่รอดทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2016, 82.

[6] ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “การประชุมศีลระลึกและศีลระลึก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2008, 18.