ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม 2020 ประธานเนลสันขอให้สมาชิกศาสนจักรทั่วโลกรวบรวมอิสราเอลจากม่านทั้งสองด้าน นอกจากงานสอนศาสนา พระวิหาร และงานประวัติครอบครัวแล้ว ท่านขอให้เราช่วยสร้างศรัทธาและประจักษ์พยาน “ในใจคนที่อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน และรับใช้ด้วยกัน”[1] ในการตอบสนองต่อการเรียกนี้ ฝ่ายประธานภาคได้มอบคำเชื้อเชิญหลายประการแก่สมาชิกทุกคนในภาคเอเชีย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือให้รวบรวมอิสราเอลเข้าร่วมการประชุมศีลระลึกซึ่งเป็นที่ที่สมาชิกใหม่หรือสมาชิกที่กลับมาทุกคนรู้สึกว่าได้รับการต้อนรับ รัก และเป็นที่ต้องการ
หลายปีก่อนระหว่างการศึกษาระดับปริญญาโท ข้าพเจ้าจำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มอนเตร์เรย์ เม็กซิโกเป็นเวลาสองสามเดือน เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ครอบครัวของเราตัดสินใจขับรถสี่วันด้วยระยะทาง 1,500 ไมล์จากโพรโว ยูทาห์ไปยังมอนเตร์เรย์ ส่วนที่ท้าทายที่สุดของการเดินทางทั้งหมดคือ 150 ไมล์สุดท้าย ไม่นานหลังจากที่เราข้ามพรมแดนเม็กซิโก ทุกอย่างที่เราคุ้นเคย—ป้ายถนน, อาหาร, ภาษา, วัฒนธรรม—ก็หายไป ซึ่งทำให้เรารู้สึกวิตกกังวลและหวาดกลัวอย่างมาก พูดได้เท่านี้ว่านับเป็นประสบการณ์ที่น่าอึดอัดและน่ากลัว
ประสบการณ์ในมอนเตร์เรย์ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงประสบการณ์ที่คล้ายกันเมื่อผู้สอนศาสนาพาข้าพเจ้าไปที่การประชุมศีลระลึกเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับหลายๆ คน ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกแยกและไม่สบายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้าพเจ้าสังเกตตนเองว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อยในการประชุม ข้าพเจ้ารู้สึกได้รับพรที่สมาชิกทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าได้รับการต้อนรับและสบายใจมาก สิ่งต่างๆ อาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหากสมาชิกไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ ดังนั้น เราจะทำอะไรได้บ้างในฐานะสมาชิกวอร์ดหรือสาขาเพื่อช่วยให้สมาชิกใหม่หรือสมาชิกที่กลับมารู้สึกได้รับการต้อนรับ รัก และเป็นที่ต้องการ ต่อไปนี้เป็นหลักธรรมสำคัญสองสามข้อที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองและจากหน่วยที่เคยไปเยี่ยมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
ทั้งยังหมายถึงการสร้างศรัทธาและประจักษ์พยานในใจคนที่อยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน และรับใช้ด้วยกัน
ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน
ค่าของจิตวิญญาณยิ่งใหญ่
ในแอลมา 31 แอลมาสวดอ้อนวอนด้วยความจริงใจต่อพระผู้เป็นเจ้าว่าท่านและคู่ผู้สอนศาสนาของท่านจะเปลี่ยนใจเลื่อมใสชาวโซรัมมาสู่พระเจ้าให้สำเร็จ จากคำสวดอ้อนวอนของท่าน เราบอกได้โดยง่ายว่าแอลมามีความรักอันยิ่งใหญ่ต่อชาวโซรัมและตระหนักในคุณค่าอันหาที่สิ้นสุดไม่ของจิตวิญญาณเหล่านี้ ตามที่ท่านกล่าว: “ดูเถิด, ข้าแต่พระเจ้า, จิตวิญญาณกพวกเขามีค่า, และพวกเขาหลายคนเป็นพี่น้องของพวกข้าพระองค์; ฉะนั้น, โปรดประทานพลังความสามารถและปัญญา, ให้พวกข้าพระองค์, ข้าแต่พระเจ้า, เพื่อพวกข้าพระองค์จะนำคนเหล่านี้, พี่น้องของพวกข้าพระองค์, มาหาพระองค์อีก.” [2] เช่นเดียวกับแอลมา เมื่อเราตระหนักว่า “ค่าของจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า”[3] เราจะมีความรักเป็นแรงจูงใจในการทำสุดความสามารถเพื่อช่วยคนรอบข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกใหม่และสมาชิกที่กลับมาอยู่บนเส้นทางพันธสัญญา
การกระทำที่เรียบง่ายของการรับใช้
ยี่สิบปีที่แล้วครอบครัวของเราย้ายบ้านเพราะงานใหม่ของข้าพเจ้า เมื่อเราเข้าร่วมการประชุมศีลระลึกในวันอาทิตย์แรก อธิการเพ็ตตี้ต้อนรับเราอย่างอบอุ่นและเชิญเราพูดคุยสักเล็กน้อยที่ห้องทำงานของท่าน วันอาทิตย์ถัดมาเมื่อเราเดินเข้าไปในอาคารประชุม อธิการเพ็ตตี้อยู่ที่นั่นเพื่อต้อนรับเราและเรียกชื่อลูกๆ สามคนของเราแต่ละคน ข้าพเจ้ามักจะเรียกชื่อลูกๆ ผิด ความเมตตากรุณาของท่านถึงแม้จะดูเล็กน้อยก็ทำให้เรารู้สึกถึงความรักและได้รับการต้อนรับ บางครั้งการกระทำที่เรียบง่ายของการรับใช้—รอยยิ้ม การทักทาย การจับมือ—ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นในการให้พรและยกผู้อื่น ดังที่ซิสเตอร์บิงแฮมสอน “บางครั้งเราคิดว่าเราต้องทำสิ่งใหญ่โตและเก่งกาจจึงจะ ‘นับ’ เป็นการรับใช้เพื่อนบ้านของเรา ทว่าการกระทำที่เรียบง่ายของการรับใช้สามารถส่งผลอันลึกซึ้งต่อผู้อื่น—และตัวเราเอง”[4] เราถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่ต้องการความเอาใจใส่และความช่วยเหลือจากเรา การกระทำที่เรียบง่ายของการรับใช้ของเราสามารถเปลี่ยนชีวิตเหนือจินตนาการได้
ความพยายามเป็นหนึ่งเดียวกัน
นอกจากความพยายามของแต่ละคนแล้ว เราควรพยายามเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อทำให้สาขาหรือวอร์ดของเราให้การต้อนรับและเป็นมิตรมากขึ้น ปีที่แล้วข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปเยี่ยมวอร์ดแห่งหนึ่ง เมื่อเดินเข้าไปในอาคารประชุม ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่ามีฝ่ายต้อนรับที่เป็นมิตรมากสองสามคนที่เข้ามาทักทายและพูดคุยกับผู้คน หลังการประชุม อธิการบอกข้าพเจ้าว่าวอร์ดให้ความสนใจสมาชิกใหม่และสมาชิกที่กลับมาเป็นพิเศษโดยต้อนรับพวกเขาและไม่ปล่อยให้พวกเขานั่งฟังการประชุมศีลระลึกตามลำพัง อีกทั้งวอร์ดพยายามให้ข้อเสนอแนะเรื่องงานมอบหมายหรือการเรียกเพื่อช่วยให้พวกเขาเติบโตและรู้สึกว่าเป็นที่ต้องการ อันที่จริงแล้ว สภาสาขาหรือสภาวอร์ดมีบทบาทสำคัญในการช่วยรวบรวมอิสราเอลโดยทำให้สมาชิกใหม่หรือสมาชิกที่กลับมาทุกคนรู้สึกได้รับการต้อนรับ รัก และเป็นที่ต้องการ
พี่น้องทั้งหลาย เราทุกคนต่างได้รับมอบหมายให้ “ช่วยเหลือคนอ่อนแอ, ยกมือที่อ่อนแรง, และให้กำลังเข่าที่อ่อนล้า.”[1] เมื่อเราสวดอ้อนวอนด้วยความจริงใจเหมือนแอลมา เราจะได้รับการเปิดเผยและการนำทางที่จำเป็นจากพระบิดาบนสวรรค์เพื่อช่วยในความพยายามนี้ ขอให้เราพบปีติที่มาจากการรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ในการต้อนรับสมาชิกใหม่และสมาชิกที่กลับมาเข้าสู่ศีลระลึกซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความรักของพระผู้ช่วยให้รอด
[1] ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย,” เลียโฮนา, พ.ย. 2020, 92–95.
[2] แอลมา 31: 35
[3] หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:10
[4] จีน บี. บิงแฮม, “ปฏิบัติศาสนกิจดังที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงทำ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 104-106.
[5] หลักคำสอนและพันธสัญญา 81:5