ข่าวสารจากผู้นำภาคเอเชีย (July 2022)

รัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญ

เราสามารถยื่นมือช่วยเหลือทุกคนด้วยความรัก แบ่งปันศรัทธาของเรา และเชื้อเชิญให้พวกเขามีส่วนร่วมกับเรา เมื่อเพื่อนมาโบสถ์ เราสามารถช่วยให้พวกเขาพบความสัมพันธ์และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อน

เอ็ลเดอร์ปีเตอร์ เอฟ. เมอร์ส
เอ็ลเดอร์ปีเตอร์ เอฟ. เมอร์ส แห่งสาวกเจ็ดสิบ

ณพ่อคุณแม่ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกกลุ่มแรกในสาขาเล็กๆ ของเมืองวอร์นัมบูล รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย  เป็นเวลาหลายปีที่มีเพียงข้าพเจ้ากับพี่สาวเท่านั้นเป็นเยาวชนที่โบสถ์  ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ข้าพเจ้าเข้าเรียนที่โรงเรียนประจำในเมืองเมลเบิร์น ในวันอาทิตย์หลังจากเข้าร่วมการประชุมนมัสการตามที่โรงเรียนกำหนด ข้าพเจ้าจึงจะสามารถเข้าร่วมการประชุมนมัสการของศาสนจักรเราได้  ข้าพเจ้าต้องสวมชุดนักเรียนเมื่อออกนอกบริเวณโรงเรียน

 

ในฐานะที่เป็นเด็กขี้อายวัย 14 ปี ข้าพเจ้าจำได้ว่าเมื่อเดินเข้าไปในวอร์ดใกล้ที่สุดและสังเกตเห็นเยาวชนหลายคน ข้าพเจ้ารู้สึกเคอะเขินและไม่เข้าพวกเพราะชุดนักเรียนที่ข้าพเจ้าใส่  เพราะพี่สาวข้าพเจ้าเรียนโรงเรียนในเขตอื่นของเมลเบิร์น ข้าพเจ้าจึงเลือกไปที่วอร์ดของเธอเกือบทุกอาทิตย์

 

อยู่มาวันหนึ่ง ข้าพเจ้าแปลกใจที่ได้รับจดหมายจากที่อยู่ในเมลเบิร์น  จดหมายฉบับนั้นมาจากแม็กซีน แธตเชอร์  เธอเป็นประธานชั้นเรียนเยาวชนโรงเรียนวันอาทิตย์ จดหมายเขียนไว้ว่า:

 

ถึง ปีเตอร์

 

เราสังเกตเห็นว่าคุณไม่ค่อยได้มาโบสถ์และต้องการให้คุณรู้ว่าเราทุกคนคิดถึงคุณและหวังว่าคุณจะมาโบสถ์ในเร็วๆ นี้ หากมีอะไรที่ฉันสามารถช่วยคุณได้ โปรดโทรหาฉัน หมายเลขโทรศัพท์ของฉันคือ

 

ด้วยความนับถือ

แม็กซีน แธตเชอร์

 

ข้าพเจ้าทั้งแปลกใจและมีความสุข และหลังจากอ่านจดหมายซ้ำหลายครั้ง ข้าพเจ้าก็ตัดสินใจโทรหาแม็กซีน ข้าพเจ้าไปที่ตู้โทรศัพท์ ยกหูโทรศัพท์ หยอดเหรียญลงในช่องและกดเบอร์โทรศัพท์อย่างประหม่า

 

แม็กซีนรับสาย  เธอพูดคุยดีมากและแสดงความห่วงใยข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอธิบายว่าข้าพเจ้าไปโบสถ์กับพี่สาวแทบทุกอาทิตย์  แม็กซีนบอกว่าเธอและสมาชิกคนอื่นๆ ในชั้นเรียนเยาวชนโรงเรียนวันอาทิตย์หวังว่าข้าพเจ้าจะเลือกไปโบสถ์กับพวกเขาบ่อยขึ้น


“ข้าแต่พระเจ้า, ขอพระองค์ประทานให้พวกข้าพระองค์เพื่อพวกข้าพระองค์จะมีความสำเร็จในการนำพวกเขามาหาพระองค์ในพระคริสต์อีก  ดูเถิด, ข้าแต่พระเจ้า, จิตวิญญาณพวกเขามีค่า, และพวกเขาหลายคนเป็นพี่น้องของพวกข้าพระองค์; ฉะนั้น, โปรดประทานพลังความสามารถและปัญญา, ให้พวกข้าพระองค์, ข้าแต่พระเจ้า, เพื่อพวกข้าพระองค์จะนำคนเหล่านี้, พี่น้องของพวกข้าพระองค์, มาหาพระองค์อีก”

แอลมา

เธอเชื้อเชิญให้ข้าพเจ้ามาโบสถ์ในวันอาทิตย์ถัดไป  ข้าพเจ้าไปโบสถ์และรู้สึกได้รับการต้อนรับและเข้ากันได้ดีกับผู้อื่น  ข้าพเจ้าลืมความรู้สึกไม่สบายใจกับการที่ต้องใส่ชุดนักเรียนไปโบสถ์

 

ปีถัดมา ครอบครัวข้าพเจ้าย้ายไปเมลเบิร์น แม็กซีนกับข้าพเจ้ายังคงเป็นเพื่อนกัน  หนึ่งปีหลังจบจากการเป็นผู้สอนศาสนา เราแต่งงานและผนึกกันในพระวิหารแฮมิลตัน นิวซีแลนด์  ข้าพเจ้าสำนึกคุณเสมอสำหรับประธานชั้นเรียนเยาวชนโรงเรียนวันอาทิตย์ที่สังเกตเห็นว่าข้าพเจ้าหายตัวไปและยื่นมือช่วยเหลือด้วยจดหมายอย่างเป็นมิตรเพื่อเชื้อเชิญให้ข้าพเจ้ากลับมา

 

พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนว่า:

 

“ใครในพวกท่านที่มีแกะร้อยตัวและตัวหนึ่งหลงหายไป จะไม่ทิ้งเก้าสิบเก้าตัวนั้นไว้ที่กลางทุ่งหญ้าแล้วออกไปตามหาตัวที่หายไปนั้นจนกว่าจะพบหรือ? และเมื่อพบแล้ว เขาจะยกขึ้นใส่บ่าแบกมาด้วยความชื่นชมยินดี เมื่อมาถึงบ้าน เขาก็เชิญมิตรสหายและเพื่อนบ้านให้มาพร้อมกัน แล้วพูดกับพวกเขาว่า ‘มาร่วมยินดีกับข้า เพราะข้าพบแกะของข้าที่หายไปนั้นแล้ว’ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่องคนชอบธรรมเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ”[1]

 

ข้าพเจ้าชอบแนวคิดอันทรงพลังที่สอนในพระคัมภีร์ข้อนี้:

 

“ตามหาจนกว่าจะพบ” การ “ค้นหา” ใครสักคนอาจเป็นมากกว่าการตามหาเพื่อนของเราที่หายไป  นี่อาจหมายถึงการเข้าใจข้อกังวลและการปฏิบัติศาสนกิจต่อความต้องการของพวกเขา

 

“เขาจะยกขึ้นใส่บ่าแบกมาด้วยความชื่นชมยินดี” เราจะช่วยเพื่อนของเราให้กลับมาได้อย่างไร?  เราปฏิบัติศาสนกิจต่อพวกเขา หรือช่วยแบ่งเบาภาระของพวกเขาอย่างไร?  เราไปโบสถ์กับพวกเขา หรืออยู่ที่นั่นเพื่อต้อนรับพวกเขา นั่งกับพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสบายใจได้หรือไม่?

 

“เขาก็เชิญมิตรสหายและเพื่อนบ้านให้มาพร้อมกัน แล้วพูดกับพวกเขาว่า มาร่วมยินดีกับข้า” เมื่อเพื่อนของเรามาโบสถ์ เราสามารถช่วยให้พวกเขาพบความสัมพันธ์และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อน

รัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญ

เมื่อเรากลับไปมีการประชุมตามปกติ เรามุ่งความสนใจไปที่ “การรวม” - การรวมให้มาการประชุมศีลระลึกที่ทุกคนรู้สึกเป็นที่รักและสร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์

 

เมื่อแอลมากับคู่ของเขาเตรียมสอนชาวโซรัม เขาสวดอ้อนวอนว่า:

 

“ข้าแต่พระเจ้า, ขอพระองค์ประทานให้พวกข้าพระองค์เพื่อพวกข้าพระองค์จะมีความสำเร็จในการนำพวกเขามาหาพระองค์ในพระคริสต์อีก  ดูเถิด, ข้าแต่พระเจ้า, จิตวิญญาณพวกเขามีค่า, และพวกเขาหลายคนเป็นพี่น้องของพวกข้าพระองค์; ฉะนั้น, โปรดประทานพลังความสามารถและปัญญา, ให้พวกข้าพระองค์, ข้าแต่พระเจ้า, เพื่อพวกข้าพระองค์จะนำคนเหล่านี้, พี่น้องของพวกข้าพระองค์, มาหาพระองค์อีก”[2]

 

เมื่อเราไปเยี่ยมสเตคและท้องถิ่นต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชีย เรามีความสุขที่ได้ยินเรื่องราวแบบอย่างของสมาชิกที่เชื้อเชิญให้คนที่พวกเขารักมาการประชุมศีลระลึก  หลายร้อยคนกลับมาระลึกถึงและรื้อฟื้นศรัทธาของพวกเขาในพระเยซูคริสต์ ทำพันธสัญญากับพระองค์ และรับพระวิญญาณของพระองค์ที่จะอยู่กับพวกเขา เราจำเป็นต้องรับศีลระลึกทุกสัปดาห์เพื่อเสริมสร้างและช่วยให้เราอยู่บนเส้นทางพันธสัญญา

 

ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการคำเชื้อเชิญด้วยความรักให้กลับมา ในช่วงการระบาดใหญ่ บางคนขาดการติดต่อ บางคนต้องเผชิญกับการทดลองศรัทธา บางคนสูญเสียคนที่รักอย่างน่าสลดใจ เพื่อนฝูงและเพื่อนบ้านหลายคนต้องการพรแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์  เราสามารถยื่นมือช่วยเหลือทุกคนด้วยความรัก แบ่งปันศรัทธาของเรา และเชื้อเชิญให้พวกเขามีส่วนร่วมกับเรา

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าหลักธรรมอันเรียบง่ายของความรัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญสามารถนำทางเราในงานที่ยิ่งใหญ่และน่ายินดีของ “การรวม”

 

อ้างอิง

1. ลูกา 15:4-6

2. แอลมา 31:34-35