ข่าวสารจากผู้นำภาคเอเชีย (December 2022)

แรงขับเคลื่อนทางวิญญาณเชิงบวก

พันธกิจของเราในชีวิตมรรตัยนี้ควรมุ่งเน้นที่พระผู้ไถ่ของเรา พระเยซูคริสต์อยู่เสมอ เพราะพระผู้ช่วยให้รอดทรงเป็นทางนั้น ความจริง และชีวิต

เอ็ลเดอร์มิน ซู วาง
เอ็ลเดอร์มิน ซู วาง แห่งสาวกเจ็ดสิบ

การมองดูการปล่อยจรวดสำหรับภารกิจอวกาศนั้นเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจเสมอ  วัตถุขนาดมหึมาที่พุ่งทยานขึ้นสู่ท้องฟ้านั้นงดงามมากจนผู้คนมิอาจลืมได้  ในสายงานของข้าพเจ้าในฐานะอาจารย์สอนฟิสิกส์ ข้าพเจ้าพบข้อคิดบางอย่างที่ลึกซึ้งจากประสบการณ์มองดูการปล่อยจรวด  มีหลายอย่างที่สะท้อนให้นึกถึงคำปราศรัยที่สร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับแรงขับเคลื่อนทางวิญญาณที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน ศาสดาพยากรณ์ผู้เป็นที่รักของเรากล่าวไว้ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2022

ประการแรก คำว่าแรงขับเคลื่อนเป็นลักษณะทางกายภาพของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่  ลักษณะทางกายภาพนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องของทิศทางด้วย  ในระหว่างการปล่อยจรวด ศูนย์ควบคุมภารกิจจำเป็นต้องเฝ้าติดตามและตรวจสอบให้แน่ใจว่าจรวดอยู่ในทิศทางถูกต้องที่นำไปสู่จุดหมายปลายทาง  ในทำนองเดียวกัน พันธกิจของเราในชีวิตมรรตัยนี้ควรมุ่งเน้นที่พระผู้ไถ่ของเรา พระเยซูคริสต์อยู่เสมอ เพราะพระผู้ช่วยให้รอดทรงเป็นทางนั้น ความจริง และชีวิต ไม่มีผู้ใดมาหาพระบิดาได้เว้นแต่โดยทางพระองค์[1]

การปล่อยจรวดมีขั้นตอนต่างๆ มากมายที่วางแผนโดยศูนย์ควบคุมภารกิจ  เช่นเดียวกับที่เราต้องมุ่งหน้าและอยู่บนเส้นทางพันธสัญญาด้วยศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์ แต่ละขั้นตอนมีจุดประสงค์เฉพาะและไม่สามารถสลับหรือข้ามได้  แม้จรวดจะอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง แต่จรวดยังคงต้องสะสมแรงขับเคลื่อนให้มากพอเพื่อเอาชนะสนามโน้มถ่วงของโลก  เช่นเดียวกับในชีวิตมรรตัย เราต้องศึกษาพระคัมภีร์และสวดอ้อนวอนอย่างมีความหมายทุกวัน รับส่วนศีลระลึกทุกสัปดาห์ เข้าพระวิหาร และรับใช้ผู้อื่นที่เดือดร้อนอย่างเป็นประจำเพื่อสะสมแรงขับเคลื่อนทางวิญญาณเชิงบวก  เมื่อทำเช่นนี้แล้ว เราไม่เพียงเข้าใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นเท่านั้น แต่สามารถเอาชนะการล่อลวงทางโลก เช่น ตัณหา ความเกลียดชัง ความโลภ ความเกียจคร้าน ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำลายเส้นทางที่นำเรากลับไปยังบ้านบนสวรรค์  ตราบใดที่เราสะสมแรงขับเคลื่อนให้เพียงพอเพื่อมุ่งหน้าไปหาพระเยซูคริสต์ เราจะไม่ถูกกระตุ้นหรือชักนำให้หลงไปทิศทางอื่นจากความท้าทายต่างๆ ทางโลก


“เราจะให้สัมภาระซึ่งวางอยู่บนบ่าเจ้าเบาลงด้วย, แม้จนเจ้าหารู้สึกไม่ว่ามันอยู่บนหลังเจ้า ... ; และการนี้เราจะทำเพื่อเจ้าจะยืนเป็นพยานให้เราต่อจากนี้ไป, เพื่อเจ้าจะรู้อย่างแน่นอนว่าเรา, พระเจ้าพระผู้เป็นเจ้า, มาเยือนผู้คนของเราในความทุกข์ของพวกเขา”

โมไซยาห์ 24:14

ข้าพเจ้าสังเกตว่าหนุ่มสาวหลายคนได้รับแรงกระตุ้นทางวิญญาณเชิงบวกหลังเข้าร่วมเอฟเอสวาย  กิจกรรมนี้มักเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่สำหรับเยาวชนและกระตุ้นให้คนหนุ่มสาวรู้สึกถึงความรักของพระผู้ช่วยให้รอดและความเต็มพระทัยของพระองค์ที่จะเสียสละเพื่อผู้อื่น  เยาวชนจะเต็มใจรับใช้และดูแลความผาสุกทางวิญญาณของผู้อื่นมากขึ้นในภายภาคหน้า  ในทำนองเดียวกัน เราควรพยายามเข้าร่วมกิจกรรมที่คล้ายคลึงกันนี้เพื่อให้มีแรงขับเคลื่อนเชิงบวก ตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่งคือการชุมนุมกันทั่วโลกเพื่อฟังข่าวสารของศาสดาพยากรณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจในการประชุมใหญ่สามัญ

เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว ในการปล่อยจรวดจำเป็นต้องทิ้งสัมภาระที่หนักออก  เช่นเดียวกันสำหรับเราที่จะมุ่งไปสู่พระเยซู  ความผิดพลาดและข้อบกพร่องของเราอาจกลายเป็นภาระหนักในชีวิตเราได้  แต่เราไม่จำเป็นต้องแบกภาระเหล่านี้  “เราจะให้สัมภาระซึ่งวางอยู่บนบ่าเจ้าเบาลงด้วย, แม้จนเจ้าหารู้สึกไม่ว่ามันอยู่บนหลังเจ้า ... ; และการนี้เราจะทำเพื่อเจ้าจะยืนเป็นพยานให้เราต่อจากนี้ไป, เพื่อเจ้าจะรู้อย่างแน่นอนว่าเรา, พระเจ้าพระผู้เป็นเจ้า, มาเยือนผู้คนของเราในความทุกข์ของพวกเขา”2  การใช้ศรัทธาในพระบิดาในสวรรค์ผู้ทรงรักท่าน เราอาจต้องสารภาพต่ออธิการและให้พระผู้ช่วยให้รอดทรงชำระบาปของเรา  เราต้องกลับใจ ให้อภัย และยุติความขัดแย้งในชีวิตส่วนตัว  เช่นเดียวกับคำสอนจากศาสดาพยากรณ์ผู้เป็นที่รักของเรา เราจะเห็นปาฏิหาริย์ในชีวิตเราและเสริมสร้างประจักษ์พยานของเราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

แรงขับเคลื่อนทางวิญญาณเชิงบวก

ข้าพเจ้าได้รับแรงขับเคลื่อนทางวิญญาณมากขึ้นด้วยการสวดอ้อนวอนและการรู้พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า  ลูกชายคนโตของเราสมัยเป็นเด็กพบว่ามีปัญหาร้ายแรงขณะพบแพทย์ประจำในเยอรมนี  มีเสียงบางอย่างบ่งบอกว่าลิ้นหัวใจนั้นตีบ  ข้าพเจ้ากับภรรยาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอการตรวจเช็คเพิ่มเติมเท่านั้น  ข้าพเจ้าเรียนรู้วิธีสวดอ้อนวอนจากภรรยา  ในเวลานั้น เธอเป็นสมาชิกของศาสนจักร แต่ข้าพเจ้ายังปฏิเสธที่จะรับบัพติศมาและค้นคว้าต่อไป ข้าพเจ้าคุกเข่าสวดอ้อนวอนอย่างสุดใจ  ข้าพเจ้าได้ยินเสียงที่ชัดเจน—เบามาก แต่หนักแน่นในใจ—บอกว่าลิ้นหัวใจจะโตขึ้น  เรานั่งรถไฟไปที่เมืองๆ หนึ่งที่ไกลมากในอีกสองสามสัปดาห์ต่อมา และรับการสแกนด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความละเอียดสูงเพื่อตรวจดูการไหลเวียนของเลือดที่เข้าและออกจากหัวใจดวงน้อยๆ ของเขา  หัวใจของลูกชายข้าพเจ้ากลับมาเป็นปกติ!  พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบคำสวดอ้อนวอนของข้าพเจ้า ประจักษ์พยานของข้าพเจ้าเติบโตขึ้นผ่านการสวดอ้อนวอนเพื่อรู้ถึงพระประสงค์ของพระเจ้า  ข้าพเจ้าเริ่มสะสมแรงขับเคลื่อนทางวิญญาณเชิงบวกนับตั้งแต่วันนั้น

ข้าพเจ้าขอเป็นพยานว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรักเรามาก พระองค์ทรงวางแผนแห่งความรอดและพระเยซูคริสต์ทรงสามารถนำทางเราให้ผ่านพ้นพันธกิจของเรา  เราจำเป็นต้องสะสมแรงของแรงขับเคลื่อนทางวิญญาณเชิงบวกที่มุ่งหน้าสู่พระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์และมีศรัทธาในพระองค์  เราจะพบกับพระบิดาบนสวรรค์หลังจากเราเสร็จสิ้นพันธกิจในชีวิตมรรตัยนี้

 


[1]  ดู ยอห์น 14:6

[2] โมไซยาห์ 24:14