ข่าวสารจากผู้นำภาคเอเชีย (February 2023)

พลังในการกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ถ้าเรายึดมั่นในพันธสัญญา เราจะพบพลังที่เราต้องการเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เข้ามา

เอ็ลเดอร์เดวิด พี. โฮเมอร์
เอ็ลเดอร์เดวิด พี. โฮเมอร์ ประธานภาคเอเชีย

ในเดือนเมษายน ปี 1970 สหรัฐอเมริกาได้ส่งจรวดขึ้นสู่อวกาศโดยมีนักบินอวกาศสามคน ในช่วงต้นของการเดินทาง การระเบิดทำให้ยานอวกาศหยุดทำงานและทิ้งคำถามที่จริงจังไว้เกี่ยวกับความสามารถในการเดินทางกลับบ้านของพวกเขา

 

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่านักบินอวกาศมีอาหารและน้ำเพียงพอที่จะอยู่ได้หลายวันและระบบต่างๆ สามารถสร้างออกซิเจนที่จำเป็นต่อการหายใจ อย่างไรก็ตาม พวกเขาขาดแคลนสิ่งล้ำค่าอย่างหนึ่ง นั่นคือ: พลังงาน

 

วันต่อๆ มานั้นเต็มไปด้วยความพยายามอย่างกล้าหาญในการค้นหา เก็บรักษา และใช้พลังงานนั้นเพื่อนำนักบินอวกาศกลับบ้านอย่างปลอดภัย

 

การเข้าถึงพลังทางวิญญาณ

 

ในทำนองเดียวกัน เราต้องการพลังทางวิญญาณเพื่อรับมือกับความท้าทายในยุคสมัยของเราและช่วยให้เรากลับบ้านบนสวรรค์ของเราได้อย่างปลอดภัย ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเตือนหลายครั้งว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากกำลังจะมาถึงและเราต้องการพลังทางวิญญาณสำหรับวันข้างหน้า[1]

 

คำถามคือ “เราจะเข้าถึงพลังทางวิญญาณที่เราต้องการได้อย่างไร”

 

แม้ว่าเราอาจพบพลังทางวิญญาณได้ในหลายๆ แห่ง แต่มีเพียงไม่กี่แห่ง (ถ้ามี) ที่ให้การไหลเวียนที่สม่ำเสมอของพลังทางวิญญาณที่มีให้กับเราในพระวิหาร ในพระวิหารเราประกอบศาสนพิธีที่ไม่มีที่อื่น ด้วยเหตุนี้ ในพระวิหารเราจึงทำพันธสัญญาและเข้าถึงพลังที่มีให้เราในพระวิหารเท่านั้น

พลังจากพันธสัญญา

 

ในหลักคำสอนและพันธสัญญา เราเรียนรู้เกี่ยวกับเวลาที่โมเสสพยายามชำระจิตใจผู้คนของท่านให้บริสุทธิ์ ในการทำเช่นนั้น ท่านสอนพวกเขาเกี่ยวกับสิทธิอำนาจของฐานะปุโรหิตและความสำคัญของศาสนพิธีฐานะปุโรหิต

 

เราเรียนรู้ว่า “ในศาสนพิธี [ของฐานะปุโรหิต] พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าจึงแสดงให้ประจักษ์ และปราศจากศาสนพิธีของฐานะปุโรหิตนี้ และสิทธิอำนาจของฐานะปุโรหิต พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าไม่แสดงให้ประจักษ์แก่มนุษย์ในเนื้อหนัง”[2]


“ศาสนพิธีที่จำเป็นผูกมัดเรากับ [พระเยซูคริสต์] ผ่านพันธสัญญาฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเมื่อเรารักษาพันธสัญญา พระองค์ย่อมประสาทพรเราด้วยเดชานุภาพ ของพระองค์ ที่เยียวยาและเสริมความเข้มแข็ง”

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

ประธานเนลสันอธิบายไว้เช่นนี้ “ศาสนพิธีที่จำเป็นผูกมัดเรากับ [พระเยซูคริสต์] ผ่านพันธสัญญาฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเมื่อเรารักษาพันธสัญญา พระองค์ย่อมประสาทพรเราด้วยเดชานุภาพ ของพระองค์ ที่เยียวยาและเสริมความเข้มแข็ง”[3]

 

เมื่อเรามีส่วนร่วมในศาสนพิธีต่างๆ เราทำพันธสัญญา ขณะที่เราเตรียมทำพันธสัญญาเหล่านั้น ขณะที่เราทำ และขณะที่เราพยายามรักษาพันธสัญญานั้น เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้นและชอบธรรมมากขึ้น และเมื่อเราทำเช่นเช่นนั้น พลังทางวิญญาณจะหลั่งไหลมาสู่จิตวิญญาณของเรา บางทีนั่นอาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่ประธานเนลสันมักกระตุ้นให้เรา “ขึ้นมาบนเส้นทางพันธสัญญาและอยู่บนนั้น”[4]

 

พันธสัญญาของเราสามารถให้พลังแก่เราในการรับมือกับความท้าทายในชีวิต ข้าพเจ้ารู้จักชายคนหนึ่งที่ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการที่สถานทูตในรัสเซีย เมื่องานเลี้ยงอาหารค่ำสิ้นสุดลง เจ้าภาพสั่งให้พนักงานเสิร์ฟแอลกอฮอล์แก่แขกของเขา ทุกคนในงานเลี้ยงต่างก็ได้คนละหนึ่งแก้ว และทุกคนก็ดื่มยกเว้นชายคนนี้

 

เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดและยากลำบากเมื่อเจ้าภาพรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ผู้ชายคนนี้คงคิดว่าการดื่มเหล้าเข้าไปจะเป็นการเอาตัวรอดในสถานการณ์อันร้ายแรงนี้ แต่เมื่อเขาจดจำพันธสัญญาของเขา เขารู้ว่าควรทำอะไร และขณะที่เขาพยายามดำเนินชีวิตตามพันธสัญญา เขาก็พบพลังที่จะทำตามนั้น

 

นั่นอาจเป็นเช่นเดียวกันสำหรับเรา เมื่อเราถูกล่อลวงให้ทำสิ่งที่เราไม่ควรทำหรือทำน้อยกว่าที่ควรจะเป็น หากเรายึดมั่นในพันธสัญญา เราจะพบพลังที่เราต้องการเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เข้ามา

พลังในการกลับบ้านอย่างปลอดภัย

พลังจากพันธสัญญาพระวิหาร

 

แม้ว่าเราอาจพบพลังทางวิญญาณได้ในหลายๆ แห่ง แต่มีเพียงไม่กี่แห่ง (ถ้ามี) ที่ให้การไหลเวียนที่สม่ำเสมอของพลังทางวิญญาณที่มีให้กับเราในพระวิหาร ในพระวิหารเราประกอบศาสนพิธีที่ไม่มีที่อื่น ด้วยเหตุนี้ ในพระวิหารเราจึงทำพันธสัญญาและเข้าถึงพลังที่มีให้เราในพระวิหารเท่านั้น

ข้าพเจ้ารู้ว่านี่เป็นความจริงเพราะข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งนี้ในชีวิตครอบครัวของข้าพเจ้าและได้ประสบกับตัวข้าพเจ้าเอง

 

หากท่านยังไม่ได้ไปพระวิหาร ข้าพเจ้าขอเชิญชวนให้ท่านเตรียมตัวไปเดี๋ยวนี้ ถ้าท่านเคยไปพระวิหารแล้ว ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านกลับไปอีกโดยเร็วที่สุดและบ่อยที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้ หากท่านอยู่ไกลจากพระวิหารหรือมีข้อจำกัดอื่นๆ ที่ห้ามไม่ให้ท่านเข้าร่วม ประธานเนลสันสนับสนุนให้ท่าน “จัดเวลาเพื่อนึกทบทวนพันธสัญญาที่เคยทำไว้เป็นประจำ”[5]

ข้าพเจ้าสัญญาว่าเมื่อท่านทำสิ่งเหล่านี้ พลังทางวิญญาณจะหลั่งไหลมาสู่จิตวิญญาณของท่าน

 


[1] รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระวิหารและรากฐานทางวิญญาณของท่าน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2021, 94

[2] ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:23, 18-21

[3] รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระวิหารและรากฐานทางวิญญาณของท่าน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2021, 94

[4] รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน,, “พลังของแรงขับเคลื่อนทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2022, 98

[5] รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระวิหารและรากฐานทางวิญญาณของท่าน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2021, 95