ข่าวสารจากผู้นำภาคเอเชีย (ตุลาคม 2023)

วิธีเตรียมรับพรตลอดชีวิตของพันธสัญญาพระวิหาร

สิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงคือการที่เราให้เกียรติพันธสัญญาเหล่านั้นและรักษาพรมากมายของพระวิหารตลอดชีวิตของเรา

เอ็ลเดอร์ สุชาติ ไชยชะนะ
เอ็ลเดอร์ สุชาติ ไชยชะนะ แห่งสาวกเจ็ดสิบ

ข้าพเจ้ายังจำได้เมื่อยังเป็นเยาวชนชายที่เพิ่งรับบัพติศมาและมีโอกาสพบกับเอ็ลเดอร์กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์เมื่อต้นปี 1976 มีอยู่ช่วงหนึ่ง ท่านมองตาข้าพเจ้าตรงๆ และพยากรณ์ว่าข้าพเจ้าจะแต่งงานและรับการผนึกในพระนิเวศน์ของพระเจ้า ในสมัยนั้นดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เพราะไม่มีพระวิหารในพื้นที่ของเรา อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้ศรัทธาและทำงานหนักเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดข้าพเจ้าก็เก็บเงินได้มากพอและพาภรรยาและลูกสาวตัวน้อยไปรับการผนึกในพระวิหารมะนิลา ฟิลิปปินส์ในช่วงปลายปี 1984 ใช้เวลาถึงแปดปีเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น


หลังจากได้รับศาสนพิธีพระวิหารและทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าพบว่าแปดปีนั้นไม่ได้นาน คุ้มค่ากับการรอคอยและความพยายาม ความท้าทายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่นั้นมาคือข้าพเจ้าจะรักษาพรเหล่านั้นไว้ตลอดชีวิตได้อย่างไร


ในช่วง 39 ปีตั้งแต่ข้าพเจ้าได้รับศาสนพิธีพระวิหารและรับการผนึกกับครอบครัว ข้าพเจ้าได้เรียนรู้หลายสิ่งที่ช่วยให้ข้าพเจ้าเตรียมรับพรตลอดชีวิตของพันธสัญญาพระวิหาร นี่คือคำแนะนำของข้าพเจ้า:


“คนที่เข้าใจพรนิรันดร์ซึ่งมาจากพระวิหารทราบว่าเพื่อให้ได้รับพรดังกล่าวไม่มีการเสียสละใดมากเกินไป ไม่มีราคาใดสูงเกินไป และไม่มีการต่อสู้ใดยากเกินไปเพื่อรับพรเหล่านั้น”

โธมัส เอส. มอนสัน
  1. อัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตเราและครอบครัวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ดู เฮนรีย์ บี. อายริงก์, “ครอบครัวภายใต้พันธสัญญา,” เลียโฮนา, เมษายน 2012, 62)
  2. บิดาทั้งหลายจงทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าครอบครัวให้สมบูรณ์ ขอให้มารดาทั้งหลายสนับสนุนอย่างเข้มแข็ง “นี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและปกปักรักษาหน่วยครอบครัว เราวิงวอนบิดาทั้งหลายให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวโดยชอบธรรม เราขอให้มารดาทั้งหลายสนับสนุนค้ำจุนสามีของพวกเธอและจงเป็นความสว่างให้แก่บุตรธิดา” (โจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธ, “Counsel to the Saints and to the World,” Ensign, ก.ค. 1972, 27)
  3. ขอให้ทั้งครอบครัวรักกัน “ในแง่นิรันดร์ ความรอดเป็นเรื่องของครอบครัว … เหนือสิ่งอื่นใด บุตรธิดาต้องรู้และรู้สึกว่าพวกเขาได้รับความรัก เป็นที่ต้องการ และได้รับการชื่นชม ต้องทำให้พวกเขามั่นใจในเรื่องเหล่านั้นบ่อยๆ  เห็นได้ชัดว่านี่คือบทบาทที่บิดามารดาควรเติมเต็ม และบ่อยครั้งที่มารดาจะทำได้ดีที่สุด” (เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน, “Salvation—a Family Affair,” Ensign, ก.ค. 1992, 2, 4)
  4. เมื่อความปรารถนาทางวิญญาณของเราเพิ่มขึ้น เราจะพึ่งพาตนเองทางวิญญาณได้ จากนั้น เราจะสามารถช่วยผู้อื่น ตัวเราเอง และครอบครัวให้เพิ่มความปรารถนาที่จะติดตามพระผู้ช่วยให้รอดและดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระองค์ ศาสดาพยากรณ์แอลมาสอนว่า “แม้หากท่านทำไม่ได้มากไปกว่าปรารถนาที่จะเชื่อ, ก็ขอให้ความปรารถนานี้เกิดผลในท่าน” (แอลมา 32:27)
  5. มาโบสถ์ทุกสัปดาห์และรับส่วนศีลระลึก “เพื่อจะรับส่วนศีลระลึกอย่างมีค่าควร เราระลึกว่าเรากำลังต่อพันธสัญญาที่เราทำเมื่อรับบัพติศมา เพื่อให้ศีลระลึกเป็นประสบการณ์ชำระล้างทางวิญญาณในแต่ละสัปดาห์ เราต้องเตรียมตนเอง ก่อน มาที่การประชุมศีลระลึก” (โรเบิร์ต ดี. เฮลส์ “รู้สำนึกตัว: ศีลระลึก พระวิหาร และการเสียสละรับใช้” เลียโฮนา พ.ค. 2012, 34)
วิธีเตรียมรับพรตลอดชีวิตของพันธสัญญาพระวิหาร
  1. ถือใบรับรองพระวิหารที่เป็นปัจจุบัน ตั้งเป้าหมายและเตรียมตนเองเป็นพิเศษเพื่อกลับไปพระวิหารให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ “มาตรฐานสำหรับผู้ถือใบรับรองพระวิหารคืออะไร? ผู้เขียนสดุดีเตือนเราว่า: ผู้ใดจะขึ้นไปบนภูเขาของพระยาห์เวห์? และผู้ใดจะยืนอยู่ในสถานนมัสการของพระองค์? คือผู้ที่มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์” (สดุดี 24:3–4)
  2. เสียสละและรับใช้ ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2011 ประธานโธมัส เอส. มอนสันแบ่งปันตัวอย่างการเสียสละที่เกี่ยวข้องกับการรับใช้ในพระวิหาร คุณพ่อวิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่ซื่อสัตย์คนหนึ่งบนเกาะห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิกทำงานที่ใช้ร่างกายอย่างหนักในสถานที่ห่างไกลเป็นเวลาหกปีเพื่อหาเงินที่จำเป็นในการพาภรรยาและลูกๆ 10 คนไปรับการผนึกชั่วนิรันดร์ในพระวิหารนิวซีแลนด์ ประธานมอนสันอธิบายว่า “คนที่เข้าใจพรนิรันดร์ซึ่งมาจากพระวิหารทราบว่าเพื่อให้ได้รับพรดังกล่าวไม่มีการเสียสละใดมากเกินไป ไม่มีราคาใดสูงเกินไป และไม่มีการต่อสู้ใดยากเกินไปเพื่อรับพรเหล่านั้น” (โธมัส เอส. มอนสัน, “พระวิหารศักดิ์สิทธิ์—ประภาคารส่องโลก,” เลียโฮนาและ Ensign, พ.ค. 2011, 91–92.)

ขณะนี้เรามีพระวิหารในประเทศไทยและอีกไม่นานจะมีอาคารศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เพิ่มขึ้นในหลายประเทศในเอเชีย เราไม่ต้องรอนานอีกต่อไปเพื่อรับศาสนพิธีพระวิหารและทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า  แต่ไม่สำคัญว่าเราจะรอนานแค่ไหน สิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริงคือการที่เราให้เกียรติพันธสัญญาเหล่านั้นและรักษาพรมากมายของพระวิหารตลอดชีวิตของเรา