เราได้รับบัญชาจากพระผู้ช่วยให้รอดให้ “ค้นดูในพระคัมภีร์เพราะ…ในนั้นมีชีวิตนิรันดร์ และพระคัมภีร์นั้นเองเป็นพยานให้กับเรา” (ยอห์น 5:39) เพื่อเรียนรู้จากพระองค์ รู้จักพระองค์ และฟังพระองค์ เราต้องศึกษาพระคัมภีร์อย่างขยันหมั่นเพียร โดยเฉพาะพระคัมภีร์มอรมอน เนื่องจากเป็น “หนังสือที่ถูกต้องที่สุดในโลกและเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา” (โจเซฟ สมิธ ใน History of the Church, 4:461)
ข้าพเจ้าจำวันที่ข้าพเจ้าอ่านพระคัมภีร์มอรมอนอย่างขยันหมั่นเพียรในปี 2005 ได้อย่างชัดเจน โดยตอบรับคำเชื้อเชิญของประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ ข้าพเจ้าเปี่ยมด้วยความปีติอย่างยิ่ง ศรัทธาและประจักษ์พยานของข้าพเจ้าในพระเยซูคริสต์เข้มแข็งขึ้น และมุมมองของข้าพเจ้าจากเพียงแค่อ่านพระคัมภีร์เปลี่ยนเป็น ค้นคว้า พระคัมภีร์ นับตั้งแต่รับบัพติศมา ข้าพเจ้าได้อ่านพระคัมภีร์มอรมอนมาหลายครั้ง แต่ข้าพเจ้าปรารถนาจะยอมรับอย่างจริงใจว่าเป็นเวลานานแล้วที่วิธีของข้าพเจ้าเป็นแบบสบายๆ โดยส่วนใหญ่เป็นเพียงการอ่านแบบผ่านๆ จนบรรลุผลการศึกษาพระคัมภีร์ โดยไม่ค่อยเข้าใจหลักคำสอน แต่คำเชื้อเชิญจากศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้าช่วยให้ข้าพเจ้าค้นคว้าพระคัมภีร์อย่างขยันหมั่นเพียรเพื่อหาสิ่งที่แจ้งชัดและมีค่า โดยจำได้ว่านีไฟสอนว่า “เราจะนำ, ส่วนใหญ่ของพระกิตติคุณของเรา, ซึ่งจะแจ้งชัดและมีค่า, ออกไปสู่พวกเขา, ด้วยอำนาจของเราเอง” (1 นีไฟ 13:34)
ตอนแรกข้าพเจ้าเน้นไปที่ประวัติศาสตร์และตัวละครโปรด ซึ่งเปลี่ยนไปเป็นครั้งคราว โดยเริ่มจากนีไฟไปเป็นอีนัส อบินาไดไปเป็นแอลมา แอลมาผู้บุตรไปเป็นแอมัน ฮีลามันไปเป็นโมโรไน ในที่สุดข้าพเจ้าก็เข้าใจว่าบุคคลสำคัญของพระคัมภีร์มอรมอนคือพระเยซูคริสต์ ตั้งแต่แรกเริ่มศาสดาพยากรณ์ได้พยากรณ์ถึงการเสด็จมาของพระคริสต์ การทนทุกข์ และการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ ประจักษ์พยานของข้าพเจ้าเข้มแข็งขึ้นเมื่อเรียนรู้จากวัตถุและตัวละครต่างๆ ที่ชี้ไปที่พระคริสต์ เช่น ต้นไม้แห่งชีวิต เลียโฮนา ต้นมะกอก และศาสดาพยากรณ์อบินาได แต่ละคนเป็นเงาของพระคริสต์ โดยยืนยันข้อความนี้จากปกในของพระคัมภีร์มอรมอนว่ามีไว้เพื่อ “ให้ชาวยิวและคนต่างชาติมั่นใจว่าพระเยซูคือพระคริสต์พระผู้เป็นเจ้านิรันดร์”
ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันยืนยันว่า
“วิสุทธิชนยุคสุดท้ายทุกคนควรทำให้การศึกษาหนังสือเล่มนี้เป็นการแสวงหาตลอดชีวิต”
ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน
ข้าพเจ้าขอกระตุ้นให้อนุชนรุ่นหลังดื่มด่ำพระคัมภีร์มอรมอน เพราะทุกครั้งที่เราอ่าน เราจะเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น และเราเรียนรู้ว่าความรอดมาถึงโดยผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์เท่านั้น พระคัมภีร์นำความชัดเจนมาสู่ความจริง เช่น แผนแห่งความสุขและพันธกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของพระคริสต์ และความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระองค์ สมาชิกของศาสนจักรควรใช้เวลาอ่านพระคัมภีร์มอรมอน พระคัมภีร์มีพลังในการสอนหลักคำสอนและหลักธรรมที่เรียบง่าย เช่น ศรัทธา การเชื่อฟัง การกลับใจ และการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในใจ พระคัมภีร์มีพลังอำนาจในการเปลี่ยนมนุษย์ปุถุชนให้กลายเป็นวิสุทธิชน
พระคัมภีร์มอรมอนสอนบทเรียนเรื่องการเชื่อฟังซึ่งเป็นกฎข้อแรกของสวรรค์ ลีไฮผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์เชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้า ด้วยความกล้าหาญเขาละทิ้งทรัพย์สมบัติทั้งหมดและบ้านเกิดของเขา และเดินทางไปในแดนทุรกันดารกับครอบครัวด้วยความหิวโหย ความเหนื่อยล้า และปัญหาต่างๆ แต่ต่อมาเขาก็ได้รับพร ดังที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์มอรมอน “และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือท่านเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า, ดังนั้นท่านจึงทำดังที่พระเจ้าทรงบัญชาท่าน” (1 นีไฟ 2:3)
พระคัมภีร์มอรมอนบอกเล่าเรื่องราวมากมายของมนุษย์ผู้ประสบการเปลี่ยนแปลงอันลึกล้ำในใจ คนที่กลับใจอย่างจริงใจและกลายเป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระเจ้า การเปลี่ยนแปลงอันทรงพลังเช่นนี้เกิดขึ้นกับแอลมาผู้บุตรซึ่งครั้งหนึ่งเคยพยายามทำลายศาสนจักรของพระผู้เป็นเจ้า หลังจากเทพมาเยือนเขากลับใจอย่างจริงใจ กลายเป็นผู้สอนศาสนาและกระบอกเสียงที่ทรงพลังของพระเจ้า ต่อมาในชีวิตเขายังได้แสดงคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของการเป็นบิดาด้วยการสอนเหล่าบุตรชายเมื่อพวกเขาเดินในทางที่ผิดของโลก คำสอนของเขานำการเปลี่ยนแปลงในใจมาสู่เหล่าบุตรชาย พวกเขากลับใจและเป็นทหารที่กล้าหาญในอาณาจักรของพระเจ้า เราแต่ละคนได้รับโอกาสในชีวิตที่คล้ายกันในการเกิดใหม่ทางวิญญาณ
ผู้คนของแอมัน ชาวแอนไท-นีไฟ-ลีไฮเป็นตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่ของการให้อภัย ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้คนที่โหดร้าย พวกเขายอมรับพระคริสต์ เปลี่ยนใจเลื่อมใสพระเจ้า และจากนั้นแสดงความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่ด้วยการให้อภัยศัตรู เมื่อชาวเลมันทำสงครามกับพวกเขา พวกเขาเลือกที่จะไม่ต่อสู้ แต่ฝังอาวุธไว้ลึกมากจนแม้จะถูกยั่วยุพวกเขาก็ไม่สามารถหยิบอาวุธขึ้นมาได้ แต่กลับเลือกที่จะตายในพระคริสต์
พระคัมภีร์มอรมอนได้รับการสงวนและเขียนไว้สำหรับสมัยของเรา “คนที่ดื่มน้ำ ... จะไม่มีวันกระหายอีกเลย” (ยอห์น 4:14) พระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง เป็นพยานหลักฐานและพันธสัญญาใหม่อีกเล่มหนึ่งของพระคริสต์ ข้าพเจ้าขอกระตุ้นให้ทุกคนศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนด้วยเจตนาแท้จริง พระคัมภีร์จะทำให้ท่านใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้นและช่วยให้ท่านรู้สึกถึงความรักและเดชานุภาพของพระองค์