ปี 1981 แบลร์ วอล์คเกอร์ส่งเอกสารเพื่อรับใช้งานเผยแผ่ เขารอคอยด้วยความอยากรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์จะส่งเขาไปรับใช้ที่ใด ในที่สุดเขาก็ได้รับจดหมายจากประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ แบลร์เปิดจดหมายอ่านและพบว่าเขาได้รับเรียกให้รับใช้ที่ประเทศไทย
ว้าว! ประเทศไทยอยู่ที่ไหนกันแน่? เขาหาประเทศไทยในแผนที่ และสังเกตเห็นว่าประเทศไทยอยู่อีกฟากหนึ่งของโลกกับแคลิฟอร์เนียที่เขาเติบโตมา
ไม่นานแบลร์ก็เข้าศูนย์ฝึกอบรมผู้สอนศาสนาในโพรโว ยูทาห์ ที่นั่นเขากลายเป็นเอ็ลเดอร์วอล์คเกอร์ เขาศึกษาภาษาไทยและเรียนรู้ว่าอักษรวิจิตรงดงามทุกตัวล้วนมีความหมาย เอ็ลเดอร์วอล์คเกอร์รักงานเผยแผ่และการช่วยให้คนไทยมาหาพระคริสต์ เอ็ลเดอร์วอล์คเกอร์รู้ว่างานเผยแผ่เปลี่ยนชีวิตเขาแต่เขาประหลาดใจที่งานเผยแผ่ยังคงเปลี่ยนชีวิตเขาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยปริญญาด้านการบริหารงานก่อสร้าง แบลร์แต่งงานมีครอบครัว ในปี 2013 เขาได้รับเรียกเป็นอธิการวอร์ดไทยในซอลท์เลคซิตี้ ความทรงจำดีๆ ทั้งหมดเกี่ยวกับงานเผยแผ่ของเขากลับคืนมาทันที และเขาประสบปีติของการทำงานกับคนไทยอีกครั้ง เขารับใช้เป็นอธิการจนถึงปี 2019
ในปี 2019 การเรียกขอให้เขากับลิซาภรรยามาทำงานเผยแผ่พิเศษสี่ปีในหน้าที่นักประวัติศาสตร์สำหรับพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย พวกเขาต้องทำประวัติของพระวิหารตั้งแต่พิธีเบิกดินไปจนถึงพระวิหารเสร็จสมบูรณ์ ลูกๆ หกคนสนับสนุนพวกเขา
หลังจากมาถึงประเทศไทยได้ 6 เดือน เอ็ลเดอร์วอล์คเกอร์ได้รับงานมอบหมายเพิ่มอีกสองงานเนื่องจากโควิด 19 ทำให้ผู้สอนศาสนาอาวุโสคนอื่นๆ ทั้งหมดต้องออกจากประเทศ เขาได้รับเรียกเป็นอธิการของวอร์ดภาษาอังกฤษในกรุงเทพและเป็นเลขานุการด้านการเงินของคณะเผยแผ่ เอ็ลเดอร์แบลร์ วอล์คเกอร์ได้เรียนรู้ว่างานเผยแผ่เปลี่ยนชีวิตท่านอย่างน่าพิศวงชั่วกาลนาน … ในแบบที่คุณคาดไม่ถึง