
เจ็ดปีที่แล้ว ครอบครัวอาซิซในปากีสถานมาเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศไทย กลุ่มติดอาวุธตาลีบันในปากีสถานทำให้สภาพความเป็นอยู่ในบ้านเมืองของพวกเขาไม่ปลอดภัย ชาฮีน เอเวอเรสต์ อาซิสมากรุงเทพฯ กับสามีและลูกชายสามคน การย้ายครั้งนี้ทำให้ชาฮีนคิดถึงบ้านและเพื่อนๆ มาก เธอร้องไห้ตลอดปีแรก
ผู้สอนศาสนาคู่สามีภรรยาในกรุงเทพฯ เอ็ลเดอร์และซิสเตอร์เอลส์เวิร์ธแนะนำชาฮีนให้รู้จักกับศูนย์กักกันนานาชาติที่ตั้งอยู่ในเขตสาทร กรุงเทพฯ ศูนย์แห่งนี้ช่วยเหลือคนทั่วโลกที่ทำวีซ่าหายหรืออยู่ในประเทศไทยเกินเวลา เอ็ลเดอร์และซิสเตอร์เอลส์เวิร์ธอาสาสละเวลาและทรัพย์สินเงินทองไปช่วยงานศูนย์ บ่อยครั้งผู้อาศัยอยู่ที่ศูนย์ยังคงหิวเหมือนเดิมหลังจากศูนย์ปันส่วนอาหารเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่จะสามารถให้ได้
ด้วยการที่เอ็ลเดอร์และซิสเตอร์เอลส์เวิร์ธจัดหาเงินทุนให้ชาฮีน เธอจึงเริ่มทำอาหารไปให้ศูนย์กักกันนานาชาติ หลังจากทั้งคู่กลับไปสหรัฐแต่ก็ยังส่งเงินให้ชาฮีนซื้ออาหารมาทำเหมือนเดิม เธอตื่นตีสี่มาทำอาหาร เจ็ดโมงเช้านั่งรถเมล์สองชั่วโมงไปศูนย์กักกันนานาชาติ ที่ศูนย์เธอมีกลุ่มคนที่เธอทำงานด้วยราว 50 คน เธอนำอาหารไปให้สองมื้อและดูแลช่วยเหลือพวกเขา ราว 11 โมงเธอจะนั่งรถเมล์กลับบ้าน เพราะปัญหาจราจรเธอจึงต้องนั่งรถเมล์ 3 ชั่วโมงอยู่บ่อยๆ
งานอาสาของชาฮีน อาซิซดำเนินต่อเนื่องมาหกปี เธอบอกว่านี่เป็นวิธีรับใช้ผู้อื่นดังที่พระคริสต์จะทรงทำ พระองค์ทรงขอให้เรา “เลี้ยงดูแกะของพระองค์” และเธอพบวิธีเลี้ยงดูแกะทางร่างกาย