สมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายและมิตรสหายเพลิดเพลินกับโปรแกรมให้ข้อคิดทางวิญญาณครั้งพิเศษในวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 ค่ำคืนดังกล่าวเริ่มด้วยอาหารว่างหลากหลายชนิดที่ผู้มารับชมสามารถพูดคุยกันขณะรับประทานอาหารเพื่อสานสัมพันธ์และสร้างมิตรภาพ
การให้ข้อคิดทางวิญญาณมีกำหนดเริ่มเวลา 18:00 น. และผู้ชมเริ่มมาออกันที่ประตูห้องนมัสการเพื่อรอประตูเปิดให้เข้าไปหาที่นั่ง การรอคอยนานเกินคาดเพราะซาราห์นักเชลโลบินมาจากลอนดอนและเที่ยวบินของเธอล่าช้า พอซาราห์มาถึงครอบครัวเบเคอร์ต้องฝึกซ้อมในห้องนมัสการก่อน จากนั้นจึงอนุญาตให้ผู้ชมได้เข้าไปนั่งขณะครอบครัวเตรียมตัวแสดง
การรอคอยคุ้มค่าเพราะครอบครัวเบเคอร์เข้าห้องมาด้วยความพร้อมเพรียงแบบมืออาชีพ นักเชลโลดูไม่เหนื่อยแต่อย่างใดหลังจากเดินทางนานกว่า 11 ชั่วโมงครึ่ง
ผู้ชมนั่งเอนหลัง ผ่อนคลาย และเพลิดเพลินกับการแสดงให้ข้อคิดทางวิญญาณชื่อว่า “พระผู้ไถ่” การแสดงเริ่มต้นด้วยวีดิทัศน์ที่สวยงาม อ่อนโยน และจับใจเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ตั้งแต่สภาในสวรรค์ ไปจนถึงการปฏิบัติศาสนกิจมรรตัยของพระองค์ ได้แก่ การประสูติ บัพติศมา ปาฏิหาริย์ พระกระยาหารมื้อสุดท้าย การสวดอ้อนวอนในเกทเสมนี การตรึงกางเขน การฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์และโลกวิญญาณ
ครอบครัวเบเคอร์เลือกพระชนม์ชีพของพระคริสต์มา 11 เหตุการณ์และบรรเลงเพลงสวดตามเหตุการณ์แต่ละอย่าง โดยฉายคลิปวีดิทัศน์สั้นๆ ระหว่างเพลงเพื่อนำเข้าสู่เพลงต่อไป
ช่วงท้ายคอนเสิร์ต เจนนี โอ๊คส์ เบเคอร์เดี่ยวไวโอลิน ซึ่งย้ำเตือนเราว่าเธอเป็นนักไวโอลินระดับโลกผู้สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวความรู้สึกด้วยเพลงของเธอ ซิสเตอร์เบเคอร์แสดงประจักษ์พยานตอนจบคอนเสิร์ตว่าศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเป็นศาสนจักรที่แท้จริงแห่งเดียวบนแผ่นดินโลก เธอแสดงความสำนึกคุณต่อพรที่พระกิตติคุณนำมาสู่ชีวิตเธอ ประจักษ์พยานของเธอลงท้ายด้วยการเป็นพยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์ ประจักษ์พยานที่จริงใจของซิสเตอร์เบเคอร์ตามมาด้วยจุดสำคัญสูงสุดของค่ำคืนนั้นคือการบรรเพลงเพลงสวด “ฉันรู้พระผู้ไถ่ทรงพระชนม์” ซ้ำอีกครั้ง
เอ็ลเดอร์สุชาติ ไชยชะนะ สาวกเจ็ดสิบภาคของประเทศไทยขอบคุณครอบครัวเบเคอร์ด้วยตัวเองและมอบของที่ระลึกเป็นชุดการประสูติจากประเทศไทยให้พวกเขาเพื่อพวกเขาจะจดจำค่ำคืนพิเศษนี้ที่มาแสดงในกรุงเทพได้ตลอดไป
นับเป็นพรพิเศษที่ได้เห็นครอบครัวแห่งพันธสัญญาพร้อมใจกันบรรเพลงเพลงได้อย่างไพเราะเพราะพริ้ง ไม่มีใครรีบออกจากกห้อง ครอบครัวเบเคอร์ยอมให้คนที่ต้องการถ่ายรูปกับนักแสดงได้มีโอกาสนั้น ผู้ชมจึงได้มีโอกาสพูดคุยกันอีกครั้งและเปรมปรีดิ์กับความรู้สึกอบอุ่นใจจากการให้ข้อคิดทางวิญญาณครั้งนี้