ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย จัดงาน “He is the Gift” หรือ “พระองค์คือของขวัญ” ณ อาคารเสริมพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 13 และวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ที่ผ่านมา โดยมีการแสดงทั้งหมด 5 รอบ งานนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อของชาวคริสต์ ภายในงานมีการแสดงอันน่าประทับใจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทเพลงคริสต์มาสอันไพเราะ เช่น Alleluia, More Than Just a Boy, Silent Night!, Angels We Have Heard On High, Oh Come Oh Come Emmanuel, Peace Like a River, Joy to the World ซึ่งขับร้องโดยคณะนักร้องประสานเสียงจากหลากหลายกลุ่ม พร้อมด้วยนักออร์แกนรับเชิญพิเศษจากคริสตจักรเซเว่นเดย์แอดเวนติส และนักดนตรีมากความสามารถ นอกจากนี้ยังมีการแสดงละคร และวิดีโอที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการประสูติ การปฏิบัติศาสนกิจ และการพลีพระชนม์ชีพเพื่อไถ่บาปของพระเยซูคริสต์
การแสดง “พระองค์คือของขวัญ” ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้ง 5 รอบ รวมประมาณ 1,500 คน รวมถึงแขกผู้ทรงเกียรติมากมาย อาทิเช่น ม.ร.ว.เบญจาภา ไกรฤกษ์ ท่านศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และท่านไกรรัตน์ วัตสัล อดีตนายกสโมสรและสมาชิกของสโมสรโรตารีบางรัก ผู้ชมต่างรู้สึกซาบซึ้งและประทับใจกับการแสดง ที่นำเสนอเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ได้อย่างงดงามและทรงพลัง บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความรัก และจิตวิญญาณแห่งคริสต์มาส ผู้เข้าร่วมงานต่างได้รับประสบการณ์อันล้ำค่า และตระหนักถึงความสำคัญของพระเยซูคริสต์ในฐานะที่เป็นของขวัญล้ำค่าจากพระผู้เป็นเจ้า ยิ่งไปกว่านั้น กิจกรรมนี้ยังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน โดยมีการเผยแพร่เรื่องราวของงาน “พระองค์คือของขวัญ” ทางโทรทัศน์ช่องไทยพีบีเอส รายการ 'วันใหม่วาไรตี้' (นาทีที่ 1:45:00) ในวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งช่วยให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้และเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของเทศกาลคริสต์มาสมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทางศาสนจักรยังได้จัดเตรียมจุดถ่ายภาพที่ตกแต่งอย่างสวยงาม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานและบุคคลทั่วไปได้เก็บภาพความประทับใจ โดยจุดถ่ายภาพนี้จะเปิดให้เข้าชมได้จนถึงวันที่ 7 มกราคม 2025
งาน “พระองค์คือของขวัญ” ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในการแบ่งปันข่าวสารแห่งความหวังและสันติสุขผ่านเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส แต่ยังเป็นการเชื้อเชิญให้ผู้คนเข้ามาใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น และดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์ ด้วยความรัก การให้อภัย และการรับใช้ผู้อื่น
อ้างอิง:
