(ข่าวท้องที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2024)

มุ่งหน้าสู่พระวิหาร

พระวิหารกรุงเทพ

ไม่ว่าพระวิหารจะอยู่ใกล้หรือไกล ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ตราบที่ใจของแต่ละคนยังคงแนบสนิทอยู่กับพระเยซูคริสต์ ผมสังเกตเห็นพี่น้องวิสุทธิชนจากหลายประเทศในเขตบริการพระวิหารกรุงเทพประเทศไทย พากันมานมัสการพระวิหารเป็นส่วนตัว เป็นกลุ่ม และเป็นหมู่คณะ ตั้งแต่สัปดาห์แรกมาจนถึงทุกวันนี้ เริ่มจากประเทศไทย พม่า กัมพูชา สิงคโปร์ มาเลเซีย (ปีนัง) อินเดีย ปากีสถาน เวียดนาม ไต้หวัน จีน ฮ่องกง และประเทศอื่นๆจากทั่วโลก รวมถึงหน่วยงานต่างๆของศาสนจักรระดับประเทศและภาคเอเชีย และล่าสุดมีครอบครัวตัวแทนวอร์ดบางนาช่วยประสานงานพากลุ่มครอบครัวของผู้ประสาทพรจากส่วนกลางของประเทศไทยมานมัสการพระวิหารเมื่อวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคมนี้เองซึ่งช่วยเพิ่มพลังทางวิญญาณให้กับผู้ร่วมคณะ 30 กว่าชีวิตทำให้ผมหวนนึกถึงคำพูดที่ประธานโธมัส เอส. มอนสัน กล่าวไว้


“ท่านยังไม่ได้ทุกอย่างที่ศาสนจักรมอบให้จนกว่าจะเข้าพระนิเวศน์ของพระเจ้าแล้วรับพรทุกประการซึ่งคอยท่านอยู่ที่นั่น พรสำคัญและสูงสุดของการเป็นสมาชิกศาสนจักรคือพรเหล่านั้นซึ่งเราได้รับในพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า ”

โธมัส เอส. มอนสัน, “พระวิหารษักดิ์สิทธิ์–ประภาคารส่องโลก”, เลียโฮนา, ก.ค. 2011, 116.
พระวิหารกรุงเทพ

นอกจากนี้ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน สอนว่า


“พระวิหารเป็นพระนิเวศน์ของพระเจ้าส่วนสำคัญของพิธีการและพันธสัญาพระวิหารอันเป็นหัวใจของแผนแห่งความรอดคือการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ กิจกรรมทุกอย่างบทเรียนทุกบทและทุกสิ่งที่เราทำในศาสนจักรชี้ไปยังพระเจ้าและพระนิเวศน์ อันบริสุทธิ์ของพระองค์ งานของเราในการประกาศพระกิตติคุณทำให้วิสุทธิชนดีพร้อม และไถ่คนตายล้วนแต่นำไปที่พระวิหาร '

รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “การเตรียมตัวรับพระวิหาร”, เลียโฮนา, พ.ค. 2001, 44.

พระวิหารกรุงเทพประเทศไทยเปิดทำการได้ยังไม่ครบ 1 ปี มีพี่น้องสมาชิกจำนวนมากจากแต่ละท้องที่กำลังปรับตัวเพื่อให้พระวิหารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมรรตัยนี้อย่างแท้จริง เป็นสิ่งที่น่าทึ่งเมื่อผมได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับจากรายบุคคล เป็นครอบครัว เป็นกลุ่ม และคณะ ทั้งเล็กและใหญ่ต่างเริ่มมีดวงใจของพระวิหารเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ สมาชิกพากันหันใจเข้าหาพระเยซูคริสต์ มีการพูดคุยถึงเรื่องความรักความเมตตาผ่านการชดใช้ของพระองค์และมีคำตอบชัดเจนว่าแต่ละคนจะหาสันติได้ที่ใดโดยคำนึงถึงชีวิตนิรันดร์และความสูงส่ง ส่งผลให้สมาชิกมีความพยายามและพากเพียรปฏิบัติตามกฏแห่งการพลีบูชาโดยการกลับใจอย่างแท้จริงเพื่อถวายแด่พระองค์ด้วยใจที่ชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิด เมื่อได้เห็นทุกกลุ่ม ทุกหมู่ ทุกคณะ และล่าสุดกับคณะทั้ง 30 กว่าชีวิตมุ่งหน้าสู่พระวิหารขณะที่แต่ละคนกำลังทยอยย่างก้าวเข้าไปในห้องให้คำแนะนำเพื่อรอรับศาสนพิธีด้วยใบหน้าที่อิ่มเอมพร้อมรอยยิ้มและใจที่เป็นสุข ผมรู้สึกถึงพลังทางวิญญาณและความแข็งแกร่งแห่งศรัทธาที่เป็นปึกแผ่นไม่สั่นคลอนของคนในกลุ่มนี้ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน