ข่าวสมาชิกท้องที่ (มีนาคม 2024)

สมาชิกจากเชียงใหม่เดินทางไกลมากกว่า 12 ชั่วโมงเพื่อมาพระวิหาร

พระวิหารเปิดต้อนรับผู้คนจากทุกประชาชาติ ตระกูล และภาษา

สมาชิกจากเชียงใหม่เดินทางไกลมากกว่า 12 ชั่วโมงเพื่อมาพระวิหาร
กลุ่มสมาชิกจากเชียงใหม่ถ่ายภาพร่วมกันหน้าพระวิหารหลังจากนั่งรถไฟมากว่า 12 ชั่วโมง

 

พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระนิเวศน์ของพระผู้เป็นเจ้าที่เปิดต้อนรับสมาชิกทุกคนที่มีค่าควร ผู้ถือใบรับรองพระวิหารที่มีความปรารถนามาหาพระเจ้า และรับพิธีการที่สูงขึ้นสำหรับตนเองและบรรพชนผู้ล่วงลับ พระวิหารแห่งนี้เปิดต้อนรับพี่น้องสมาชิกในประเทศไทยจากทุกภูมิภาค รวมทั้งผู้คนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เป็นพรให้สมาชิกและผู้วายชนม์ที่ล่วงลับมากมายในช่วงเวลาไม่กี่เดือนหลังเปิดทำการ

หนึ่งในกลุ่มวิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่ได้เดินทางมายังพระนิเวศน์แห่งนี้คือพี่น้องสมาชิกจากสาขาเชียงใหม่ 1 ซึ่งอยู่ในท้องถิ่นเชียงใหม่ เป็นเขตที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย พี่น้องสมาชิกในท้องถิ่นนี้มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และภาษา มีทั้งชาวไทยและชนเผ่าต่างๆ พวกเขามีศรัทธาที่จะติดตามพระเยซูคริสต์และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ สมาชิกจำนวนสิบท่านตัดสินใจเดินทางมาพระวิหารด้วยรถไฟใช้เวลาเดินทางนานกว่า 12 ชั่วโมง และยังมีสมาชิกอีกบางส่วนที่เดินทางมาสมทบด้วยรถบัสและเครื่องบิน พวกเขาเดินทางด้วยระยะทางมากกว่า 700 กิโลเมตร เพื่อมาประกอบศาสนพิธีพระวิหารในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

 

บราเดอร์สุธาเสก สะสม อายุ 12 ปี และคุณแม่ เป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ทั้งสองคน พวกเขาตัดสินใจเดินทางมาพระวิหารกับสมาชิกคนอื่นๆ ได้กล่าวว่า

“ผมได้มีโอกาสเดินทางไปพระวิหารกับคุณแม่และสมาชิกสาขาเชียงใหม่ 1 ผมได้มีโอกาสบัพติศมาแทนบรรพบุรุษของผมเป็นครั้งแรก ผมตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุดที่ได้ทำการบัพติศมาแทนคนตาย ซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาเคยสอนผมว่า คนตายที่ยังไม่เคยบัพติศมา เขาจะอยู่ในคุกมืด แต่ถ้าเราได้รับบัพติศมาแทนคนตายให้พวกเขา เราทำตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์ช่วยพวกเขาให้รอด ได้รับแสงแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ มีโอกาสกลับไปยังที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า ผมตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำพิธีบัพติศมาแทนเพื่อช่วยเหลือพวกเขา ผมอยากจะทำพิธีบัพติศมาแทนคนตายให้ได้มากที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ ผมไม่กลัวการที่จะลงไปในน้ำหลายๆ รอบ เพราะผมคิดว่าพระเยซูคริสต์ทรงปฎิบัติศาสนกิจ ในขณะมีชีวิตบนแผ่นดินโลกอย่างเต็มที่ สุดกำลังของพระองค์ จนกระทั่งยอมสละพระชนม์ชีพบนไม้กางเขน เพื่อชดใช้บาปให้พวกเราทุกคน ผมกตัญญูและสำนึกคุณต่อความรักและการเสียสละของพระเยซูคริสต์มากครับ การได้มีโอกาสรับใช้บัพติศมาแทนคนตายในพระวิหารทำให้ผมระลึกถึงพระองค์และมีความสุขที่ได้ช่วยผู้อื่นให้ได้รับความรอดผ่านศรัทธาและศาสนพิธีในพระวิหารครับ”

ซิสเตอร์นาสอ จะพือ หนึ่งในผู้มารับเอ็นดาวเม้นท์สำหรับตนเอง ซึ่งมีปัญหาด้านสุขภาพ แต่ยังคงมีศรัทธาแน่วแน่ที่จะมาพระวิหาร ได้กล่าวว่า

“ดิฉันตั้งเป้าหมายไปพระวิหาร หลังจากได้ไปร่วมงานโอเพ่นเฮ้าส์พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทยและเตรียมตัวเพื่อมีค่าควรเข้าพระวิหาร มีศรัทธาและตั้งใจแน่วแน่ที่จะเชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ดิฉันมีความสุขที่ได้รับเอ็นดาวเม้นท์ของตนเอง การสวดอ้อนวอนในพระวิหารทำให้ดิฉันใกล้ชิดพระเยซูคริสต์มากขึ้น พระองค์ทรงรู้ถึงความทุกข์ยากและการเจ็บป่วยทางร่างกายของดิฉัน พระองค์ทรงแบกรับความเจ็บป่วยทางร่างกายของดิฉันและทรงอยู่เคียงข้างดิฉัน การรับเอ็นดาวเม้นท์ช่วยเพิ่มพลังให้ดิฉันทั้งทางร่างกายและทางวิญญาณ ให้สามารถเผชิญกับทุกสิ่งได้โดยการมีศรัทธาและวางใจในพระเยซูคริสต์ ดิฉันตั้งใจที่จะไปพระวิหารบ่อยๆ เพื่อเรียนรู้พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น และทำศาสนพิธีแห่งความรอดให้กับบรรพชนผู้ล่วงลับของดิฉัน”

สมาชิกเข้ารับศาสนพิธีพระวิหารสำหรับตนเองและครอบครัว

ซิสเตอร์นฤมน ปัญโญวาทและครอบครัว ผู้มีโอกาสทำพิธีผนึกสามีภรรยาและครอบครัว กล่าวว่า

“เมื่อคุณแม่ของดิฉันเสียชีวิตลงเมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ดิฉันรักคุณแม่มากและคุณแม่ก็รักดิฉันมาก ด้วยคำสอนของศาสนาจักรดิฉันรู้สึกอย่างแรงกล้าที่จะได้อยู่กับคุณแม่ของดิฉันในชีวิตนิรันดร์อีก ขณะนั้นพระวิหารกรุงเทพ กำลังก่อสร้าง ดิฉันรอคอยที่จะผนึกกับคุณแม่ในพระวิหาร ดิฉันกับครอบครัวมีโอกาสได้เดินทางไปที่พระวิหารกรุงเทพเพื่อเข้าชมส่วนต่างๆ ของพระวิหารเมื่อตอนเปิดให้สาธารณชนเข้าชม ขณะที่ดิฉันอยู่ในห้องผนึก ดิฉันได้สัมผัสถึงพระวิญาณบริสุทธิ์อย่างมากว่าคุณแม่และบรรพบุรุษอยู่ในห้องนั้นและเฝ้ารอคอยการทำศาสนพิธีจากดิฉัน ดิฉันน้ำตาคลอและท้วมท้นไปด้วยพระวิญญาณ เวลานั้นดิฉันตั้งปณิธานไว้ในใจว่าเมื่อใดก็ตามที่พระวิหารสร้างเสร็จดิฉันจะต้องผนึกกับครอบครัวของดิฉัน และผนึกกับคุณพ่อ คุณแม่และบรรพบุรุษของดิฉัน ในที่สุดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2024 ดิฉันได้ผนึกกับครอบครัว และดิฉันจะกลับไปที่พระวิหารอีกครั้งเพื่อจะผนึกกับคุณพ่อ คุณแม่และบรรพบุรุษ ดิฉันขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้าที่ได้สร้างพระวิหารให้เราได้ผนึกเป็นครอบครัวนิรันดร์และมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ และได้พบกับคนที่เรารักอีกครั้ง

ก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19 เวลานั้นครอบครัวของดิฉันได้เตรียมตัวไปพระวิหารโดยได้เข้าชั้นเรียนการเตรียมตัวไปพระวิหาร และรอการสัมภาษณ์ใบรับรองพระวิหาร เนื่องจากเป็นการเดินทางไปต่างประเทศ การกำหนดแผนการเดินทางไปพระวิหารจึงต้องใช้เวลานาน การเตรียมตัวของดิฉันไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วเวลาที่ดิฉันใกล้จะเดินทางไปพระวิหาร หากแต่เป็นการเตรียมตัวที่ยาวนานนับแต่ที่ดิฉันได้เป็นสมาชิกของศาสนจักร การดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ การรักษาพระบัญญัติ การมีค่าควรเป็นเรื่องที่ดิฉันได้เตรียมตัวมานาน ถึงแม้เวลานั้นดิฉันอาจไม่เข้าใจถึงความสำคัญของศาสนพิธีในพระวิหารมากนัก แต่ดิฉันเตรียมตัวของดิฉันอยู่ตลอดเวลา ดำรงชีวิตให้มีค่าควรต่อการถือใบรับรองพระวิหาร รับใช้ศาสนจักรและพี่น้องในสาขา แต่แผนการเดินทางต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากการระบาดอย่างรุนแรงของโควิด 19 ซึ่งในขณะนั้นก็มีการเริ่มก่อสร้างพระวิหารที่กรุงเทพฯ จึงทำให้ดิฉันมีเป้าหมายที่จะไปพระวิหารที่กรุงเทพฯ แทน

การเตรียมทั้งทางร่างกาย ความประพฤติ การปฏิบัติและจิตใจของเราก่อนเราเข้าไปในพระวิหาร เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน เมื่อออกมาจากพระวิหารเราได้รับการเรียนรู้ และความเข้าใจว่าการได้อยู่ในอาณาจักรสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้ามีสภาพเป็นเช่นไร การเปลี่ยนแปลงตัวเราหลังจากมีส่วนร่วมในศาสนพิธีพระวิหารเป็นสิ่งสำคัญเท่าเทียมกับเมื่อเราออกจากอาคารพระวิหาร ดิฉันได้รับการประสาทความรู้จากองค์พระผู้เป็นเจ้าในพระวิหาร ดิฉันเรียนรู้ถึงวิธีที่เข้าสู่อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า ดิฉันสัมผัสถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าที่ได้เตรียมทางไว้ให้กับลูกๆ ของพระองค์ที่จะกลับไปหาพระองค์อีกครั้งหนึ่ง แต่การกลับไปของเรา เราจะมีร่างกาย มีประสบการณ์ดังที่พระองค์ทรงมี ประสบการณ์ที่เรานำกลับไปควรเป็นประสบการณ์ของการที่จะเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่ประสบการณ์ของโลกมรรตัยอันไม่บริสุทธิ์นี้ 

พระผู้เป็นเจ้าทรงรักดิฉันและดิฉันรักพระองค์ ดิฉันประพฤติปฏิบัติตามพระกิตติคุณของพระผู้เป็นเจ้าเพราะดิฉันรักครอบครัวและรู้ว่าพระกิตติคุณเป็นความจริง ดิฉันรักคุณแม่ และด้วยศรัทธาที่ดิฉันได้รับการสอนจากผู้สอนศาสนา ดิฉันได้มีโอกาสเข้าใจงานของพระผู้เป็นเจ้าและเข้าพระวิหาร และทำศาสนพิธีเพื่อคุณแม่ของดิฉัน คุณแม่ไม่รู้จักพระกิตติคุณ อาศัยอยู่ในดินแดนที่การประกาศพระกิตติคุณของศาสนจักรที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ยังไปไม่ถึง แต่พรแห่งนิรันดร์นี้เกิดขึ้นกับคุณแม่เพราะดิฉันเชื่อในพระเยซูคริสต์ การดำเนินชีวิตในเส้นทางแห่งพระกิตติคุณเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ประเสริฐที่สุดที่ดิฉันได้ทำให้คุณแม่ และดิฉันรู้ว่าคุณแม่จะได้รับการพักผ่อนจากศาสนพิธีที่ดิฉันได้ทำในพระวิหาร นี่คืองานของพระผู้เป็นเจ้า นี่คือความรักอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อลูกๆ ของพระองค์ทุกคนที่เกิดบนโลกนี้ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน”

สมาชิกถ่ายภาพกับรูปปั้นพระเยซูคริสต์บริเวณทางเดินเชื่อมไปพระวิหาร

 

 

การเดินทางมาพระวิหารของสมาชิกเป็นการแสดงออกถึงศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ความหวังในพระบิดาบนสวรรค์ และความเชื่อว่าครอบครัวสามารถอยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ ซึ่งนอกเหนือจากการมารับศาสนพิธีเพื่อตนเองและทำศาสนพิธีให้บรรพบุรุษแล้วนั้น ยังมีสมาชิกจากต่างจังหวัดอีกหลายท่านที่ได้สละเวลามารับใช้เป็นเจ้าหน้าที่พระวิหารในบางสัปดาห์ แม้การเดินทางมาพระวิหารจะเรียกร้องการเสียสละ  ทั้งสุขภาพ พละกำลัง เวลาและค่าใช้จ่าย แต่ศรัทธาของพวกเขาและความปรารถนาในการรับใช้พระเจ้าและผู้คนของพระองค์ ถือเป็นอีกหนึ่งแบบอย่างและประจักษ์พยานว่า พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ได้แผ่ขยายออกไปสู่ทุกประชาชาติ ตระกูล และภาษา และพระวิหารเปิดต้อนรับทุกคนที่รักและปรารถนาจะพบพระองค์