การสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ

เอ็ลเดอร์ติง-ซุง ฉาง

เอ็ลเดอร์ติง-ซุง ฉาง

เดือนเมษายน ปี 2018 ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันประกาศว่า “เราจะใช้วิธีที่ใหม่กว่า บริสุทธิ์กว่า ในการดูแลเอาใจใส่และปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่น เราจะเรียกความพยายามเหล่านี้อย่างง่ายๆ ว่า ‘การปฏิบัติศาสนกิจ’”1 เราซาบซึ้งที่ได้รับการนำทางและการดลใจจากการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องในชีวิตมรรตัยนี้  การปฏิบัติศาสนกิจคือการเรียนรู้และเอาใจใส่ความต้องการของผู้อื่น  เป็นการทำงานของพระเจ้า  เป็นสิทธิพิเศษที่เราได้ทำงานแทนพระเยซูคริสต์และกระทำในฐานะตัวแทนพระองค์ที่จะดูแล ยกระดับ และทำให้ผู้อยู่รอบข้างเข้มแข็ง  เมื่อเราปฏิบัติศาสนกิจกับความต้องการทางวิญญาณและทางโลกของผู้อื่นด้วยวิธีของพระผู้ช่วยให้รอด พระองค์จะทรงเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เราเป็นการตอบแทน

 

หลายเดือนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าสังเกตเห็นสมาชิกผู้ซื่อสัตย์หลายท่านปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่นในเชิงรุกอย่างกระตือรือร้น ในหลายวอร์ดและหลายสาขา การสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจดำเนินไปอย่างมีประสิทธิผลระหว่างบราเดอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจกับผู้นำโควรัมฐานะปุโรหิตของพวกเขา และระหว่างซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจกับผู้นำสมาคมสงเคราะห์ของพวกเธอ  เมื่อการมาพบกันด้วยตนเองไม่สามารถทำได้ทุกครั้ง ก็จะมีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ทางออนไลน์ หรือวิธีอื่นๆ บ้าง  ควรมีการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจอย่างน้อยไตรมาสละครั้ง ทั้งนี้ผู้นำโควรัมฐานะปุโรหิตและผู้นำสมาคมสงเคราะห์อาจสัมภาษณ์คู่ปฏิบัติศาสนกิจได้บ่อยกว่านั้นตามความจำเป็น2

 

ดังที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันอธิบายไว้ จุดประสงค์ของการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจคือการปรึกษาหารือกันเรื่องความผาสุกของครอบครัวและบุคคลที่ได้รับมอบหมาย3  เพื่อให้บรรลุการปฏิบัติศาสนกิจที่มีความหมายและประสบผลสำเร็จ ผู้นำควรดำเนินการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจที่ได้รับการดลใจด้วยความอ่อนน้อม รักและศรัทธาในพระเจ้า  ซิสเตอร์ลี ฮุ่ย ชี ประธานสมาคมสงเคราะห์จากวอร์ดผิงตงในสเตคผิงตง ไต้หวันเป็นพยานว่า “การปฏิบัติศาสนกิจที่มีประสิทธิผลต้องมีการนำทางของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์  ระหว่างการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ  ดิฉันสามารถรู้สึกอย่างลึกซึ้งถึงอิทธิพลของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ทำงานกับดิฉัน  ดิฉันสามารถเข้าใจวิธีที่พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้งานที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์เกิดขึ้นจากสิ่งที่เล็กน้อย”

 

ข้าพเจ้าทราบมาว่าบราเดอร์และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจหลายคนให้การรับใช้ที่ปรับให้เหมาะสมกับครอบครัวและบุคคลที่ได้รับมอบหมาย  การปฏิบัติศาสนกิจเช่นนั้นได้แก่ การไปเยี่ยมด้วยตนเอง การสนทนาทางโทรศัพท์ ให้การรับใช้ การเป็นเพื่อนกับผู้โดดเดี่ยว ปลอบประโลมผู้ป่วย การเชิญชวนสมาชิกให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมศาสนจักรด้วยกัน การแบ่งปันพระคัมภีร์ การกระตุ้นให้สมาชิกสวดอ้อนวอน การแบ่งปันประจักษ์พยาน เป็นต้น  ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นหลังจากบราเดอร์และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจทำหน้าที่ปฏิบัติศาสนกิจอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่นโดยให้การรับใช้ที่เล็กน้อยและเรียบง่ายเหล่านี้ ศรัทธาของสมาชิกเข้มแข็งขึ้นท่ามกลางการทดลองที่น่าหนักใจ  สมาชิกแข็งขันน้อยกลับมาแข็งขันและเข้าร่วมประชุมศีลระลึก  สมาชิกที่ตกงานได้งานใหม่และกลับมาแข็งขัน  บางครอบครัวกลับมาแข็งขันและรับพรของการผนึกในพระวิหาร  เยาวชนชายเริ่มเตรียมตัวรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา และหนุ่มสาวโสดรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา  ดังที่แอลมาสอนฮีลามันบุตรของท่านในพระคัมภีร์มอรมอน “โดยเรื่องเล็กและเรียบง่ายสิ่งสำคัญจะเกิดขึ้น” 4


เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันสอนว่า “เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่บราเดอร์และซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจจะมีโอกาสเล่าเรื่องการรับใช้ของพวกเขา เล่าว่าพวกเขาดูแล รัก สอน ปลอบโยนและช่วยเหลือในวิธีของพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไร และที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้นำโควรัมฐานะปุโรหิตและผู้นำสมาคมสงเคราะห์ที่จะได้รับรู้และเข้าใจสภาวการณ์ตลอดจนความต้องการของผู้คนที่พวกเขาดูแล การสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจเป็นมากกว่าการรายงาน”


ขณะสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจ ผู้นำควร “ให้คำปรึกษา สอน และปฏิบัติศาสนกิจ” เช่นกัน  การสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดและ “จะเป็นกุญแจไขสู่คุณภาพและความสำเร็จของการปฏิบัติศาสนกิจของเราเพื่อคนรุ่นที่จะตามมา” 2

 

ซิสเตอร์ซัน ซุง ปี ฮุง ประธานสมาคมสงเคราะห์อีกท่านหนึ่งเล่าว่า “หลักจากการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจกับซิสเตอร์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจคู่หนึ่ง ดิฉันไตร่ตรองอยู่หลายวันถึงสิ่งท้าทายบางเรื่องที่ครอบครัวหนึ่งซึ่งซิสเตอร์คู่นี้ได้รับมอบหมายให้ดูแลกำลังเผชิญอยู่  จากนั้นดิฉันได้รับการดลใจให้แนะนำอธิการให้เรียกคุณแม่ของครอบครัวนี้เป็นครูสมาคมสงเคราะห์”  ขณะนี้คุณแม่ท่านนั้นเริ่มรับใช้เป็นครูสมาคมสงเคราะห์ ครอบครัวของเธอได้รับพรจากการคืนดีกับพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น  พี่น้องสตรีในวอร์ดได้รับพรผ่านการรับใช้เป็นครูของเธอด้วย

 

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าการปฏิบัติศาสนกิจและการสัมภาษณ์ผู้ปฏิบัติศาสนกิจสามารถช่วยให้เราน้อมใจพึ่งพาการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่จะนำทางเราในการรับใช้และชีวิตประจำวัน  ศรัทธาของเราในพระเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นขณะเราปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่นในวิธีของพระองค์ ด้วยความรัก ความกรุณา และความอดทน  ขณะเรารักษาพระบัญญัติข้อใหญ่สองข้อ “จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน” 5 และ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”6 เราได้รับสัญญาว่า “[เรา] จะได้รับรางวัลของเขา, แม้สันติสุขในโลกนี้ และชีวิตนิรันดร์ในโลกที่จะมาถึง.”7 ■

______________________________________

อ้างอิง:

 

[1]รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “การปฏิบัติศาสนกิจ”, การประชุมใหญ่สามัญ, เมษายน 2018.

2https://www.lds.org/ministering/ministering-interviews-videos/elder-christofferson-testifies-of-the-power-of-ministering-interviews?lang=eng

3https://www.lds.org/ministering/ministering-interviews-videos/purposes-of-ministering-interviews?lang=eng

4ดู แอลมา 37:6.

5ดู มัทธิว 22:37

6 ดู มัทธิว 22:39.

7ดู คพ. 59:23.