เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดที่ทุกคนมีประสบการณ์คล้ายคลึงกันบ่อยครั้งที่ท่านอาจตกอยู่ในสถานะของผู้มีคำถามที่ต้องการคำตอบจากใครคนหนึ่งที่ท่านคาดหวังว่าคนๆนั้นจะเป็นผู้ให้คำตอบที่กระจ่างชัด หรือทำให้ท่านหายจากความสงสัยในคำถามที่ท่านมี และในทางตรงกันข้ามบ่อยครั้งท่านอาจตกอยู่ในสถานะของผู้ถูกถามซึ่งได้รับความคาดหวังจากคนอื่นว่าท่านจะเป็นผู้ที่มีความรอบรู้รอบด้านด้วยข้อมูลต่างๆ และพร้อมที่จะเป็นผู้ตอบคำถามได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผมเรียนรู้ว่าประสบการณ์ในชีวิตจริงของการเป็นประธานพระวิหารที่ผมมีเสมอมา คือ บ่อยครั้งที่มีคนเดินเข้ามาหาเป็นการส่วนตัวแล้วถามหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องไม้จิ้นฟันยันเรือรบ เมื่อผมฟังคำถามแล้วผมได้แต่ยิ้มและตอบกลับไปด้วยความสบายใจว่า “ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ เนื่องจากเรื่องนี้ผมไม่รู้จริงๆ” หรือ “ต้องขอโทษจริงๆ คำถามนี้ผมตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ทราบครับ” ผมอยากเล่าให้ทุกคนฟังว่าผมจัดการกับตนเองอย่างไรในเมื่อมีคนถามแล้วผมตอบคำถามไม่ได้ทุกเรื่องดั่งใจผู้ที่ตั้งใจถามเพื่อหาคำตอบ ผมเป็นคนหนึ่งที่มีคำถามมากมายในสิ่งที่ผมไม่รู้และไม่เข้าใจ สิ่งที่ผมทำได้คือคิดและไตร่ตรองอยู่เสมอ เราหันหน้าเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าเพื่อพึ่งพาพระองค์ด้วยวิธีการขั้นพื้นฐานที่เรียบง่ายมาก นั่นคือสวดอ้อนวอนและอ่านพระคัมภีร์ ผมมองหาพระผู้เป็นเจ้าและสวดอ้อนวอนถึงพระองค์เพื่อบอกพระองค์เป็นเรื่องๆ
ผมรู้อยู่อย่างหนึ่งคือพระผู้เป็นเจ้าทรงฟังผมซึ่งทำให้ผมสบายใจ หลังจากนั้นผมอ่านพระคัมภีร์ ฟังการประชุมใหญ่สามัญวันละหนึ่งเรื่อง นอกจากนี้ผมยังศึกษาจากคู่มือจงตามเรามาเป็นประจำทุกวันและผมได้ยินเสียงของพระผู้เป็นเจ้าจากสิ่งเหล่านี้ ซึ่งทุกคำถามได้รับคำตอบทั้งหมด ผมยืนยันได้ว่า นี่แหละคือทางที่ผมสามารถจะถามและได้รับคำตอบ ให้เราถามพระองค์แบบตรงไปตรงมา แล้วเราจะได้ยินเสียงตอบจากพระองค์เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ ในพระนามพระเยซูคริสต์ เอเมน
