เมื่อวันที่ 20–21 กันยายนที่ผ่านมา สมาชิกจากท้องถิ่นอุดรได้ร่วมกันจัดการประชุมใหญ่ท้องถิ่นขึ้น โดยมีผู้เข้าร่วมจากทั้งหมด 7 สาขา ได้แก่ อุดร 1, อุดร 2, หนองคาย, กุมภวาปี, ขอนแก่น, สกลนคร และเวียงจันทน์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 370 คน การประชุมในครั้งนี้นับเป็นโอกาสพิเศษอย่างยิ่ง เนื่องจากมีเอ็ลเดอร์เบ็นจามิน เอ็ม. ซี. ไต สาวกเจ็ดสิบภาค และภรรยาของท่าน ซิสเตอร์นาโอมิ โตมะ มาร่วมในการประชุม สมาชิกทุกคนต่างรู้สึกเปี่ยมด้วยความปีติที่ได้ฟังถ้อยคำแห่งศรัทธาและคำแนะนำจากท่านทั้งสอง
เอ็ลเดอร์ไตได้แบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องราวของครอบครัวและศรัทธา คุณปู่ของท่านเคยถูกกองทัพญี่ปุ่นจับกุมและประหารชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ฮ่องกง แต่หลายทศวรรษต่อมาพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงจัดเตรียมทางแห่งการให้อภัยและความรักเมื่อเอ็ลเดอร์ไตได้พบกับภรรยาในอนาคตของท่าน ซิสเตอร์นาโอมิ โตมะ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น ขณะรับใช้เป็นประธานโควรัมเอ็ลเดอร์ในวอร์ดนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ และซิสเตอร์นาโอมิกำลังรับใช้เป็นประธานสมาคมสงเคราะห์
เมื่อเอ็ลเดอร์ไตบอกบิดาของท่านว่าท่านตั้งใจจะแต่งงานกับนาโอมิ บิดาของท่านมิได้มีความโกรธเคืองใดๆ แต่กลับต้อนรับเธอด้วยความรัก ขณะที่บิดามารดาของซิสเตอร์นาโอมิเองก็ได้เดินทางมาฮ่องกงเพื่อพบครอบครัวของเอ็ลเดอร์ไต และต่างตระหนักร่วมกันว่า พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์คือสิ่งที่ทำให้การแต่งงานของพวกเขาเป็นไปได้ ท่านทั้งสองได้เข้าพิธีสมรสในพระวิหารซอลท์เลค เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1995 และมีบุตรด้วยกันหกคน “เรามาจากวัฒนธรรมที่ต่างกัน แต่มีหลักธรรมแห่งศรัทธาและการเสียสละเหมือนกัน” เอ็ลเดอร์ไตกล่าว คำกล่าวของท่านเป็นแรงบันดาลใจแก่สมาชิกจำนวนมากให้เห็นว่าศรัทธาในพระคริสต์สามารถเชื่อมโยงผู้คนจากทุกเชื้อชาติและภูมิหลังให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้
ประธานกฤษฎา พูนศรี ประธานท้องถิ่นอุดร ได้กล่าวถึงความประทับใจในครั้งนี้ว่า
“การประชุมครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่งดงามมาก เพราะสมาชิกจากทั้ง 7 สาขามารวมกันด้วยศรัทธาเดียวกัน ถ้อยคำของผู้พูดได้ยกระดับจิตวิญญาณและช่วยให้เรามองเห็นคุณค่าของการรักษาพันธสัญญา โดยเฉพาะหลักธรรมเกี่ยวกับครอบครัวนิรันดร์ ไม่ว่าสามีภรรยาจะมาจากภูมิหลังหรือวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเพียงใด หากทั้งคู่มีศรัทธาในพระคริสต์ พวกเขาสามารถก้าวข้ามทุกสิ่งและเป็นหนึ่งเดียวกันได้ผ่านแผนของพระบิดาบนสวรรค์และการชดใช้ของพระเยซูคริสต์”